Page 4 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 45 วันที่ 18 - 24 กุมภาพันธ์ 2562
P. 4

๔                                                    ข่าวรามคำาแหง                                  วันที่ ๑๘ - ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒



                                                                                         คณะสื่อสารมวลชน
                                                                                         คณะสื่อสารมวลชน


                                                         เปิดเวทีนำาเสนอผลงานวิชาการ




















                  คณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามค�าแหง ร่วมกับ ศูนย์สหวิทยาการ

           ชุมชนศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จัดประชุม “กลุ่มศึกษาการสื่อสาร
           กับคนและชุมชนศึกษา ครั้งที่ 1 ประจ�าปี 2562” ในวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์
           2562 ณ ห้อง 208 อาคารศรีจุฬาลักษณ์ โดยมีอาจารย์ นักวิชาการ นักวิชาชีพ
           ด้านนิเทศศาสตร์ จากสถาบันต่าง ๆ เข้าร่วมจ�านวนมาก                            รศ.ดร.กาญจนา แก้วเทพ ผู้ทรงคุณวุฒิประจ�าศูนย์สหวิทยาการ

                  ผศ.ลีนา ลิ่มอภิชาต รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ ปฏิบัติราชการแทน  ชุมชนศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงความเป็นมา
           รักษาราชการแทนคณบดีคณะสื่อสารมวลชน กล่าวในโอกาสนี้ว่า มหาวิทยาลัย     ของศูนย์สหวิทยาการชุมชนศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชว่า เป็น
           รามค�าแหงจัดการเรียนการสอนด้านสื่อสารมวลชนครั้งแรกตั้งแต่ปีการศึกษา   ศูนย์วิจัยเฉพาะทางที่จัดตั้งขึ้น เพื่อส่งเสริมการศึกษาชุมชนและการพัฒนา
           2537 ในนามภาควิชาสื่อสารมวลชน คณะมนุษยศาสตร์ ต่อมา ในปีการศึกษา       ชุมชนในลักษณะสหวิทยาการที่น�าองค์ความรู้จากสาขาวิชาการต่างๆ เป็น

           2556 ยกฐานะเป็นคณะสื่อสารมวลชน ปัจจุบัน มีนักศึกษาปัจจุบัน จ�านวน     พื้นฐานในการวิเคราะห์เชื่อมโยงประเด็นต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ
           9,519 คน และมีอาจารย์ประจ�า จ�านวน 17 คน                              โดยร่วมมือกันจัดตั้งเป็นโครงการการประชุมกลุ่มเพื่อการพัฒนาทางวิชาการ
                                                                                 ในรูปแบบของอาศรมความรู้ ในลักษณะกลุ่มศึกษา Group Study หรือ
                                                                                 Community of Practice โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ เพื่อพัฒนา

                                                                                 นักวิชาการที่ต้องการธ�ารงรักษา และเพิ่มพูนปัญญาความรู้ โดยอาศัย
                                                                                 กระบวนการเติมทักษะทางวิชาการให้แก่กัน โดยมุ่งหวังให้เกิดผลในการสร้าง
                                                                                 ผลงานวิจัยและผลงานวิชาการ การสร้างและพัฒนานักวิชาการ  การสร้างเครือข่าย
                                                                                 นักวิชาการ สร้างชุดความรู้ และสร้างประโยชน์จากการวิจัย ภายใต้เจตนารมณ์

                                                                                 ที่ว่า งานวิจัยต้องน�าไปใช้ประโยชน์ได้
                                                                                        “การจัดประชุมกลุ่มฯ เป็นความคิดทางด้านเครือข่าย โดยให้ความ
                  “คณะสื่อสารมวลชน จัดการเรียนการสอนแบบตลาดวิชา ตามปรัชญา        ช่วยเหลือกันผ่านเครือข่ายสมาชิกภายในกลุ่ม ซึ่งในปัจจุบันมีด้วยกัน 5 รุ่น
           ของมหาวิทยาลัย คือ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกเรียนตามความต้องการ และ   โดยจะมีการท�าหน้าที่หมุนเวียนกันเป็นผู้น�าเสนอ ผู้อ่าน เจ้าภาพ ผู้บันทึก

           มีชั้นเรียนส�าหรับผู้ที่ประสงค์เข้าชั้นเรียน และโดยที่นักศึกษาจ�านวนมากต้อง  การประชุม เป็นต้น ซึ่งได้ก�าหนดขอบเขตการด�าเนินงานไว้ 5 ด้านประกอบด้วย
           เรียนควบคู่กับการท�างาน ท�าให้คณะต้องเน้นการผลิตสื่อประกอบการสอน      ด้านทรัพยากรมนุษย์ ด้านสุขภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการเกษตร และด้าน
           ให้มีความสมบูรณ์ ทันสมัย ที่ผู้เรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง           การสื่อสาร โดยโครงการดังกล่าวประกอบด้วยนักวิจัย นักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิ
                  ในกลุ่มอาจารย์ประจ�าของคณะนั้น ส่วนหนึ่ง เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่   จากหลายสาขาที่จะท�าให้เกิดการพัฒนาในเชิงบูรณาการศาสตร์ต่างๆ เข้าด้วยกัน

           ที่เป็นนักวิชาการ ซึ่งทุ่มเทให้กับการสอนนักศึกษาอย่างเข้มข้น และสนใจ  เพื่อพัฒนาชุมชน ทั้งในด้านวิชาการและการวิจัย การเผยแพร่องค์ความรู้
           การท�างานวิจัยเพื่อแสวงหาองค์ความรู้ ซึ่งจะได้น�าองค์ความรู้มาถ่ายทอด  การจัดอบรม การบริการทางวิชาการ และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
           ให้เกิดประโยชน์แก่นักศึกษาอีกต่อหนึ่ง ดังนั้น คณะจึงมีการส่งเสริมการท�าวิจัย  ทั้งภายใน และภายนอกมหาวิทยาลัย”
           ของคณาจารย์อย่างต่อเนื่อง โดยในรอบปีการศึกษา 2561 นี้ คณะจัดการประชุม        ในการประชุมครั้งนี้ มีการน�าเสนอบทความจากงานวิจัย จ�านวน 5

           วิชาการ 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อเดือนกันยายน 2561 เป็นการประชุมวิชาการระดับชาติ  เรื่อง เป็นผลงานของนักวิจัยภายนอก 3 เรื่อง ได้แก่ “กระบวนการสื่อสาร
           ภาพยนตร์อาเซียน ซึ่งคณะด�าเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 เพื่อเป็นเวทีในการ  การตลาดกับคุณลักษณะด้านจิตวิทยาตามแนวคิดจริตหก ในอุตสาหกรรม
           เผยแพร่ผลงานวิชาการ–วิจัย ของคณาจารย์และนักวิชาการทั้งภายในและ
           ภายนอกมหาวิทยาลัย ส�าหรับการประชุมวิชาการในวันนี้ นับเป็นการประชุม    บริการศัลยกรรมเพื่อการข้ามเพศ ประเทศไทย” โดยนางสาวปุณฑริกา ระวิกุล

           วิชาการครั้งที่สอง ที่คณะรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสท�างานวิชาการร่วมกับ  นักศึกษาระดับปริญญาเอก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ “วาทกรรม
           เครือข่ายนักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์ที่มีความเข้มแข็ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการ  อ�านาจและการสื่อสารวาทกรรมภิกษุณีเถรวาทของไทย” โดย อ.ดร.พงษ์พันธุ์
           พัฒนาขีดความสามารถด้านการวิจัยของอาจารย์และนักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์”  กีรติวศิน นักวิชาการอิสระ “การสื่อสารสุขภาพในท้องถิ่นเกี่ยวกับโรค
                  ทั้งนี้ ขอขอบคุณ ศูนย์สหวิทยาการชุมชนศึกษา มหาวิทยาลัย         ไข้เลือดออก ผ่านสื่อนิตยสาร” โดย อ.ดร.ฟารีดา เจะเอาะ ม.วลัยลักษณ์

           สุโขทัยธรรมาธิราช ที่เปิดโอกาสให้คณะสื่อสารมวลชน ร่วมเป็นเจ้าภาพ      และผลงานของอาจารย์คณะสื่อสารมวลชน ม.รามค�าแหง 2 เรื่อง คือ
           จัดการประชุมวิชาการ เรื่อง กลุ่มศึกษาการสื่อสารกับกลุ่มคน และชุมชน    “วัฒนธรรมแฟน: กรณีศึกษาเชิงชาติพันธุ์วรรณา เป๊ก ผลิตโชค แฟนคลับ”
           ศึกษา ครั้งที่ 1 ประจ�าปี 2562 ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มีพันธมิตร  โดย ผศ.ดร.พัน ฉัตรไชยยันต์ “การวิเคราะห์โมเดลเชิงสาเหตุปัจจัยการสื่อสาร
           ทางวิชาการเพิ่มขึ้น และหวังว่าในอนาคต จะได้มีโอกาสร่วมมือกับศูนย์ฯ    ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของผู้สูงอายุ” โดย

           ในการส่งเสริมพัฒนา สนับสนุนการท�าวิจัยในด้านการสื่อสารต่อไป           อ.ดร.กิรติ คเชนทวา
   1   2   3   4   5   6   7   8   9