Page 6 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 28 วันที่ 22 - 28 ตุลาคม 2561
P. 6
๖ ข่าวรามคำาแหง วันที่ ๒๒ - ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๑
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภัทระ ลิมป์ศิระ คณะนิติศาสตร์
หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์โดยธรรมชาติ (ตอนจบ)
จากตอนที่แล้ว สืบเนื่องจากปี พ.ศ. 2561 เป็นปีที่ประเทศสหภาพ 5. ฝ่ายประเทศไทยยืนยันเจตนารมณ์ในการสนับสนุนความพยายาม
เมียนมากับประเทศไทยฉลองครบรอบ 70 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ ของสหภาพเมียนมาเพื่อสร้างสันติภาพและความปรองดองแห่งชาติ ในการนี้
ทางการทูตระหว่างกัน ทั้งสองประเทศจึงส่งเสริมความร่วมมือและผลักดัน ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะด�าเนินโครงการหมู่บ้านตัวอย่าง ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ
ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์โดยธรรมชาติ (Natural Strategic Partnership) พอเพียงในรัฐยะไข่ รวมทั้งในภาคและรัฐติดกับชายแดนประเทศไทย –
นั้น ใกล้ชิดและตอบสนองผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายอย่างแท้จริง สหภาพเมียนมา เพื่อส่งเสริมสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนใน
เมื่อประธานาธิบดีอูวินมยินแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาได้ รัฐยะไข่ และสนับสนุนให้ผู้หนีภัยการสู้รบจากสหภาพเมียนมาเดินทางกลับ
เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว นายดอน ปรมัตถ์วินัย ภูมิล�าเนาอย่างปลอดภัย มีศักดิ์ศรี และยั่งยืน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จึงเดินทางเยือนสหภาพเมียนมา 6. ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ
เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี ได้ลงนามความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศประเทศไทย – สหภาพเมียนมา
ประเทศไทย – สหภาพเมียนมา ครั้งที่ 9 ร่วมกับนายจ่อ ติน รัฐมนตรีว่าการ ฉบับปรับปรุง ร่วมกับนายตัน ซิน หม่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
กระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศสหภาพเมียนมา ที่กรุงเนปยีดอ และการสื่อสารสหภาพเมียนมา และเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความ
การประชุมคณะกรรมาธิการ เข้าใจว่าด้วยโครงการพัฒนาการเพาะเลี้ยงกุ้งในรัฐยะไข่ระหว่างอธิบดีกรม
ร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีประเทศ ความร่วมมือระหว่างประเทศกับอธิบดีกรมประมงสหภาพเมียนมา
ไทย – สหภาพเมียนมา มีผู้แทนจาก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายเข้า
ร่วมด้วย เน้นย�้าความส�าคัญของการ
เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์โดยธรรมชาติ
ระหว่างประเทศไทยกับสหภาพเมียนมาซึ่งมีรากฐานจากการเป็นประเทศ
เพื่อนบ้านที่ความมั่นคงเกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก รวมถึงมีศักยภาพ
ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและความใกล้ชิดกันทางวัฒนธรรมร่วมกัน
เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบกันเร่งรัดความร่วมมือ
ในสาขาต่าง ๆ ดังนี้ 7. ระหว่างการเยือนสหภาพเมียนมาครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
1. ในด้านการเมืองและความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะรักษา การต่างประเทศได้เข้าเยี่ยมคารวะนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ
พลวัตการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในทุกระดับอย่างสม�่าเสมอ สหภาพเมียนมา โดยทั้งสองฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์อันใกล้ชิด และหารือ
โดยก�าหนดเป้าหมายร่วมกันที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างเจ้าหน้าที่ ร่วมกันอย่างฉันท์มิตรในการส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงาน การสร้างขีดความ
กระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายอย่างเป็นประจ�า ขณะเดียวกัน สามารถ การพัฒนาสังคม การบริหารจัดการภัยพิบัติ รวมทั้งสถานการณ์ใน
ที่ประชุมยินดีกับข้อเสนอของฝ่ายประเทศไทยที่จะให้มีการประชุมร่วมกัน รัฐยะไข่
เป็นประจ�าระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดของประเทศไทยกับมุขมนตรีภาค 8. ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทาง
และรัฐของสหภาพเมียนมาบริเวณชายแดนประเทศไทย – สหภาพเมียนมา ไปโรงเรียนมิตรภาพประเทศไทย – สหภาพเมียนมาที่เมืองปิ่นมะนาซึ่งตั้งอยู่
เพื่อส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในพื้นที่ชายแดน ชานกรุงเนปยีดอ เพื่อท�าพิธีมอบอาคารเรียนและลานกิจกรรมให้กับ นายเมียว
2. ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคี เต็ง จี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสหภาพเมียนมา ในฐานะผู้แทน
เป็นสองเท่า ภายในปี 2565 และยืนยันความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนโครงการ รัฐบาลสหภาพเมียนมา โรงเรียนดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาดี
เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายให้มีความคืบหน้า โดยจะเร่งรัดโครงการถนนระหว่าง และมิตรภาพที่ยาวนานระหว่างสองประเทศ
ชายแดนประเทศไทย – สหภาพเมียนมา เข้าสู่เมืองทวาย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่าย สิ่งที่ส�าคัญนอกเหนือจากการประชุม คือ การที่ประเทศไทย - สหภาพ
ยังตกลงกันที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการเงินและการธนาคาร ซึ่งจะเป็น เมียนมาได้ตกลงที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันจากปัจจุบันที่ราว 7,000
พื้นฐานส�าคัญของการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งระหว่างกันต่อไป ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นเป็น 2 เท่าภายในอีก 4 ปีข้างหน้า พร้อมกับประกาศ
3. เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะ ว่าหลังจากนี้จะมีการจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมด้านการค้าระหว่าง
เปิดสะพานมิตรภาพประเทศไทย – สหภาพเมียนมา ข้ามแม่น�้าเมย/ตองยิน ไทย-เมียนมา ครั้งที่ 8 ให้เร็วที่สุด เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการที่จะเพิ่มมูลค่า
แห่งที่ 2 ในโอกาสแรก และตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุการเจรจาบันทึกความ การค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ�านวยความสะดวกให้กับการค้าชายแดนซึ่ง
เข้าใจในการเริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่ม คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการค้าระหว่างกันทั้งหมด
แม่น�้าโขง (IICBTA) โดยเร็วเพื่อส่งเสริมการขนส่งสินค้าและการเดินทางของ ขณะเดียวกันฝ่ายไทยได้ผลักดันข้อเสนอใหม่ที่น่าสนใจ ด้วยการตั้งกลไก
ประชาชนระหว่างสองประเทศ การประชุมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนของไทย 10 จังหวัดของไทย
4. ในด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดท�า กับมุขมนตรีแห่งรัฐ 4 รัฐและ 1 ภาคของเมียนมาที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน
กรอบความร่วมมือ 3 ปี ด้านการพัฒนาระหว่างประเทศไทยกับสหภาพ สองประเทศ เพื่อเป็นประโยชน์ในการกระชับความร่วมมือเพื่อการพัฒนา
เมียนมา ปี 2562 – 2564 เพื่อสานต่อการด�าเนินโครงการและกิจกรรม ตลอดแนวชายแดนระหว่างกัน ทั้งยังมีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการเปิด
ความร่วมมือและเพื่อการพัฒนาระหว่างสองประเทศ จุดผ่านแดนตามแนวชายแดนเพิ่มเติมอีกด้วย