Page 6 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 37 วันที่ 24 - 30 ธันวาคม 2561
P. 6
๖ ข่าวรามคำาแหง วันที่ ๒๔ - ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๑
คณะนิติศาสตร์ ผศ.ภัทระ ลิมป์ศิระ
สรุปสาระ “ความสัมพันธ์มาเลเซีย-ไทย ในบริบทของอาเซียน”
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2561 ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด ได้มาบรรยาย จะให้อาเซียนเติบโตอย่างรวดเร็ว ต้องเปลี่ยนทัศนคติ "การเป็นผู้บริโภค"
พิเศษในหัวข้อ "ความสัมพันธ์มาเลเซียและไทย ในบริบทของอาเซียน" ที่มุ่งเน้นการน�าเข้าสินค้าจากผู้อื่น มาเป็น "ผู้ผลิต" คือการผลิตเองใช้กันเอง
ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย หลังขึ้นรับ ในอาเซียนอย่างยั่งยืน โดยได้ยกตัวอย่างญี่ปุ่น ที่ฟื้นตัวเองจากการพ่ายแพ้
ต�าแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียอีกครั้ง โดยท่านได้เน้นย�้าถึงสายสัมพันธ์ ในสงครามโลก มาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ จนพาเศรษฐกิจของประเทศให้ขึ้นสู่อัน
ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซียที่แม้ว่าจะมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น ดับต้นๆ ของโลกได้
มาบ้างก็ตาม แต่ทว่า ท่ามกลางการกระทบกระทั่งนั้น ทั้งสองประเทศต่างก็ เมื่ออาเซียนถูกเปรียบเทียบกับสหภาพยุโรป (EU) แล้วมหาเธร์ยัง
ยังคงถือว่ามีฝ่ายนั้นเป็นมหามิตรในอาเซียนที่มีประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ ได้ตอบว่า ในตอนนี้ ท่านมองว่า EU ไม่ได้เป็นองค์กรที่มีความร่วมมืออย่าง
กันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ก่อนประเทศมาเลเซียจะประกาศเอกราชจาก สามัคคี และเป็นหนึ่งเดียวมากนัก แต่มีปัญหาภายในมากมาย ซึ่งอาเซียน
ประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2500 เสียอีก และยังคงมิตรภาพเรื่อยมา ควรร่วมมือกันด้านเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง แต่ในด้านการเมืองต้องเคารพ
ในอดีตหลังการประกาศเอกราชของประเทศมาเลเซียเกิดปัญหา กันและกัน และต้องไม่กดดันประเทศที่ยังไม่พร้อมเป็นประชาธิปไตยด้วย
ช่วงจลาจลกับคอมมิวนิสต์ ระหว่างวิกฤตการณ์มาลายาครั้งที่ 2 ที่รู้จักในชื่อ ต่อด้วยค�าถามเรื่องการเมืองและประชาธิปไตยนั้น ดร.มหาเธร์ ที่เคย
สงครามจลาจลคอมมิวนิสต์ ประเทศไทยเองได้เข้ามาช่วยเหลือ ดังนั้น ประเทศ ด�ารงต�าแหน่งนายกฯ มา 23 ปี ยอมรับว่า การตัดสินใจที่ดีที่สุดตลอดที่นั่ง
มาเลเซียจึงรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ ที่จะช่วยเหลือประเทศไทยในการแก้ไข
ความขัดแย้ง รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็น เก้าอี้นายกรัฐมนตรีมานั้น คือ การตัดสินใจฟังเสียงประชาชน เพราะใน
ประเด็นที่ก่อนหน้านี้ ที่ ดร.มหาเธร์ ได้เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีไทยเพื่อร่วม ประเทศประชาธิปไตยนั้น หากคุณสนองตอบความต้องการของประชาชน
พัฒนาความมั่นคงทางชายแดนภาคใต้ระหว่างกัน มากเท่าไหร่ เขาก็จะสนับสนุนคุณมากเท่านั้น หรือแม้กระทั่งการกระท�าง่าย ๆ
อย่างลงพื้นที่ไปพูดคุยกับเขา จับมือพวกเขา ทั้งยังย้�าด้วยว่าตนไม่ใช่เผด็จการ
และเป็นประชาธิปไตย ที่ได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากประชาชนในการ
เลือกตั้งที่ผ่านมา
อีกหนึ่งค�าถามที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ที่ชมการถ่ายทอด
ผ่านเฟซบุ๊กเพจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมากที่สุดในเวทีบรรยายครั้งนี้
คือ ประเด็นเรื่องความหลากหลายทางเพศ (Lesbian, Gay, Bisexual,
Transgender & Queer: LGBTQ) ที่ในบางรัฐของมาเลเซีย ยังคงมีการลงโทษ
ด้วยกฎหมายชารีอะห์ หรือกฎหมายตามหลักศาสนาอิสลามกับกลุ่ม LGBTQ
ซึ่ง ดร.มหาเธร์ได้ให้ความเห็นถึงประเด็นนี้ว่า ปัจจุบันในโลกมีการพูดถึง
เรื่องของความเท่าเทียมมากขึ้น แต่ส่วนตัวแล้ว ตนเป็นคนที่ยึดถือ
ในคุณค่าแบบเอเชีย (Asian Value) และประเทศมาเลเซียก็ยึดถือคุณค่า
นอกจากนี้ ดร.มหาเธร์ ยังกล่าวถึงความร่วมมือในกรอบของอาเซียน บนหลักของศาสนา ซึ่งบางครั้งอาเซียนก็รับคุณค่าของตะวันตกเข้ามาปรับ
ที่เริ่มต้นจาก 5 รัฐสมาชิก ซึ่งประเทศไทยและประเทศมาเลเซียต่างก็เป็น แต่อาจจะไม่จ�าเป็นที่ประเทศมาเลเซียต้องท�าตามเขาทุกอย่าง ประเทศ
รัฐสมาชิกก่อตั้งด้วย ซึ่งอาเซียนเป็นองค์กรที่เป้าหมายจัดการความแตกต่าง มาเลเซียก็มีคุณค่าของตนเอง ใครจะยอมรับเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของเขา
ในภูมิภาคด้วยสันติวิธี ซึ่งอาเซียนก็โดดเด่นในการแก้ปัญหาโดยสันติ และท�าให้ แต่อย่าบังคับให้ต้องยอมรับทุกอย่าง โดยเน้นย�้าว่า “เราต้องมีเสรีภาพ
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สงบสุขมาโดยตลอด และปัจจุบันยังมีสมาชิกถึง ที่จะไม่เปลี่ยนแปลงด้วย”
10 ประเทศทั่วภูมิภาค ที่ถือเป็นความส�าเร็จในการก่อตั้งองค์กรนี้ขึ้นมา ก่อนจบการตอบค�าถาม ดร.มหาเธร์ยังเน้นย�้าว่าอาเซียนควรพัฒนา
ทั้งนี้ ดร.มหาเธร์ ประกาศว่า ความสัมพันธ์ของประเทศไทย ความรู้และทักษะ ทั้งประชาชนควรเข้าถึงด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาก
และประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะในทางภาคใต้ ต้องจัดการปัญหาโดยสันติ ยิ่งขึ้น รวมถึงปรับตัวกับโลกที่จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง AI หรือหุ่นยนต์
และไม่ใช้ความรุนแรง โดยยกกรณีกรณีความขัดแย้งในอดีต เช่น พิพาทพื้นที่ ที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ทับซ้อนในอ่าวไทยระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ที่ท้ายสุด
สามารถหาข้อยุติและตกลงร่วมกันได้ ด้วยวิถีการเจรจา ถ้าเช่นนั้น ปัญหา ในด้านของการศึกษา มหาวิทยาลัยในอาเซียนต้องการการร่วมมือ
ความขัดแย้งที่ประเทศประเทศไทยเผชิญในพื้นที่ภาคใต้ ก็สามารถแก้ไขได้ด้วย ด้านการศึกษา และผลิตงานวิจัยให้มากขึ้น โดยภาษาเป็นเรื่องส�าคัญ
หนทางสันติ ซึ่งเราร่วมกันหาข้อยุติได้ด้วยการเจรจาอย่างสันติ ทั้งยังหวังว่า เช่น ในประเทศมาเลเซียที่มหาวิทยาลัยเลือกใช้ภาษาอังกฤษ ท�าให้มีการไป
ในอนาคต ความสัมพันธ์ของไทยและมาเลเซียจะพัฒนาร่วมกันยิ่งขึ้นไป เรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ใช้ภาษาอังกฤษ หรือตีพิมพ์งานวิจัยที่ใช้ภาษาอังกฤษ
หนึ่งในค�าถามจากประชาชนและภาคธุรกิจ คือ ประเทศประเทศไทย มากขึ้นด้วย ซึ่งงานวิจัยจะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาเสริมการพัฒนาประเทศได้
จะเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 ประเทศมาเลเซียมีค�าแนะน�าอะไรบ้างนั้น ข้อสังเกต คือ ก่อนที่ ดร.มหาเธร์ จะเดินทางเยือนประเทศไทยนั้น
ดร.มหาเธร์ หวังว่า จากตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการร่วมมือ ได้เปลี่ยนหัวหน้าคณะผู้อ�านวยความสะดวกมาเป็น ตัน สรี อับดุล ราฮิม บิน
ของประชากรอาเซียนกว่า 600 ล้านคน เราสามารถร่วมมือกันผลักดัน โมฮัมหมัด นูร์ ซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการต�ารวจประเทศมาเลเซีย มีประสบการณ์สูง
เปลี่ยนจากผู้น�าเข้า เป็นผู้ผลิตสินค้าส่งออกเองได้ ซึ่งจะสร้างมูลค่า ในเรื่องความขัดแย้งชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งเขาได้เดินทางร่วมคณะ
และผลักดันให้ภูมิภาคนี้เติบโตไปได้อีกมาก และความส�าเร็จด้านการแก้ไข มาในครั้งนี้ด้วย และได้เข้าพบกับคณะผู้เจรจาฝ่ายประเทศไทยคณะใหม่
ปัญหา ด้วยหลักไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศสมาชิกอื่น ๆ แต่ถ้า ที่น�าโดยพลเอกอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์