Page 6 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 31 วันที่ 12 - 18 พฤศจิกายน 2561
P. 6
๖ ข่าวรามคำาแหง วันที่ ๑๒- ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
เรื่องราวความประทับใจ รองศาสตราจารย์ ดร. ประภาวดี กุศลรอด
เมื่อได้เข้าค่ายภาษาเยอรมันนานาชาติครั้งที่ 6
วันที่สองของการร่วมกิจกรรมของค่าย ผมและศันสนีย์ รับประทาน
อาหารเช้าเวลา 07.00 น. ที่ห้องอาหารโรงแรม ก่อนที่จะแยกย้ายไปฟังบรรยาย
และอบรมตามหัวข้อที่สนใจ โดยเวลา 08.00 ถึง 11.00 น. เป็นการบรรยาย
พิเศษจากศาสตราจารย์ชาวเยอรมัน ศันสนีย์เข้าฟังการบรรยายหัวข้อ
Interkulturalität หรือ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ส่วนผมเลือกหัวข้อ
Sich erfolgreich präsentieren หรือ การน�าเสนอตัวเองให้ประสบความส�าเร็จ
บรรยายโดย Dr. Berndt Tilp ผู้บรรยายจากศูนย์ DAAD ของประเทศเวียดนาม
ซึ่งในส่วนของผมนั้นผมได้เรียนรู้ผ่านสื่อการบรรยายอย่างวีดิทัศน์ สื่อนิทรรศน์
และการทดลองออกมาพูดหน้าห้องบรรยาย ถึงวิธีการน�าเสนอตัวเองให้เหมาะสม
เมื่อต้องการเข้ารับการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาเยอรมันเพื่อให้มีโอกาสได้งานสูงสุด
ในการได้งาน จากการที่ผู้บรรยายมีความเป็นกันเองและดูแลเอาใจใส่ผู้ฟัง ท�าให้
สาขาวิชาภาษาเยอรมัน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามค�าแหงมีความ ผมสนใจและได้ความรู้อย่างเต็มที่ โดยภาษาเยอรมันไม่ใช่อุปสรรคแม้แต่น้อย
ร่วมมือ MoU กับประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย โดยมีการแลกเปลี่ยนนักศึกษา หลังจากนั้นเป็นช่วงรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งมาในรูปแบบโต๊ะจีนเช่นเดิม
ที่เรียนภาษาเยอรมันทุกปี ท�าให้นักศึกษาที่เรียนภาษาเยอรมันได้พัฒนาศักยภาพ แต่เมนูต่างออกไป เพราะมีการเสิร์ฟอาหารทะเลด้วย หลังจากรับประทาน
ของตนและมีความกระตือรือร้นในการเรียนภาษาเยอรมันมากยิ่งขึ้น ผลพลอยได้อีก อาหารกลางวันแล้วก็เริ่มกิจกรรมการส�ารวจท้องที่ของเมืองเก่าอนุรักษ์ฮอยอัน
ประการหนึ่งจากความร่วมมือดังกล่าวท�าให้นักศึกษาที่เรียนวิชาภาษาเยอรมัน ได้มี (Hoi An) ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การการศึกษา
โอกาสถูกคัดเลือกให้ไปเข้าค่ายภาษานานาชาติ ณ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ UNESCO (United Nations
อีกด้วย ท�าให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยรามค�าแหงได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ Educational, Scientific and Cultural Organization) โดยมีคณะอาจารย์
และได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านต่างๆ กับนักศึกษาที่เรียนภาษาเยอรมันระดับ ควบคุมดูแลก�ากับอย่างใกล้ชิด กลุ่มของผมนั้นประกอบด้วยนักศึกษา
ปริญญาตรีจากหลายประเทศทั่วโลก ต่อไปนี้ทางสาขาวิชาภาษาเยอรมันขอน�าเสนอ ชาวเวียดนาม 6 คน ชาวเมียนมา 1 คน และผมอีก 1 คน
รายงานเกี่ยวกับความประทับใจของนักศึกษาที่ได้มีโอกาสเข้าค่ายภาษาเยอรมัน
นานาชาติดังกล่าวให้ผู้อ่านที่สนใจทุกท่านได้รับทราบดังต่อไปนี้
ผม นายนัทธพงศ์ เอี่ยมสวัสดิ์ นักศึกษาวิชาเอกภาษาเยอรมัน และ
น.ส.ศันสนีย์ สมวงศ์ และคณะมนุษยศาสตร์ เพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน ได้มีโอกาสเข้าค่าย
ภาษาเยอรมันนานาชาติครั้งที่ 6 ณ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม (Das 6. internationale
Deutschcamp in Danang) โครงการนี้จัดโดยสมาคมครูผู้สอนภาษาเยอรมันแห่ง
ประเทศเวียดนาม (VDLV: Vietnamesischer Deutschlehrerverband) และได้รับ
การสนับสนุนจากองค์การ DAAD (The German Academic Exchange Service)
ระหว่างวันที่ 7 – 11 สิงหาคม 2561 ส�าหรับผมการเข้าร่วมกิจกรรมนี้เปรียบ
เสมือนโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่ท�าให้ได้เปิดโลกทัศน์รู้จักเพื่อนใหม่ๆ และท�าให้มีความกล้า
ที่จะใช้ภาษาเยอรมันในการสื่อสารมากขึ้นนับตั้งแต่วันแรกที่เดินทางไปถึง ผมจึงขอ
ถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจในการเข้าร่วมแคมป์ภาษาเยอรมันครั้งนี้ออกเป็น
ตัวอักษรให้ทุกท่านได้อ่านครับ พวกเราได้ตัดสินใจเดินทางไป Tra Que เขตเกษตรกรรมของเมืองฮอยอัน
เราสองคนออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เวลา 09.50 น. ตามเวลา พวกเราเช่าจักรยานเพื่อปั่นไปเยี่ยมชม Gemüsedorf หรือ หมูบ้านผัก และได้
ประเทศไทย โดยมีอาจารย์ Thi Viet Ha Le อาจารย์สอนภาษาเยอรมันชาว ส�ารวจสถานที่ เก็บภาพ และสัมภาษณ์สอบถามคนในท้องที่ แม้พวกเขาจะพูด
เวียดนาม ประจ�าสาขาวิชาภาษาเยอรมัน คณะมนุษยศาสตร์ ร่วมเดินทางไปด้วย ภาษาเวียดนาม แต่นักศึกษาที่ไปด้วยก็ยินดีที่จะแปลเป็นภาษาเยอรมันให้ฟัง
การเดินทางครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินทางโดยเครื่องบินก่อนเครื่องบินจะบินขึ้น นับเป็นความใจดีและเป็นมิตรของชาวเวียดนามที่ผมได้ประสบและประทับใจยิ่ง
ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และความตื่นเต้นก็มีเป็นทวีขึ้นเมื่อหัวเครื่องบินเชิดขึ้น หลังจากนั้นผมได้รับประทานอาหารเย็นที่ใจกลางเมืองฮอยอัน อันเป็นที่ตั้งของ
และสายตาของผมมองผ่านหน้าต่างเครื่องบินไปเจอกลุ่มเมฆสีขาวล่องลอยอยู่ บ้านเรือนเก่าสไตล์เวียดนามดั้งเดิมและตลาดเก่าแก่ที่คราคร�่าไปด้วยกลุ่มคน
เสมือนทะเลหมอก เป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก เครื่องบินใช้เวลาบินเพียง 1 ชั่วโมงเศษ หลากหลายเชื้อชาติ อาหารเย็นที่ผมรับประทานเป็นอาหารพื้นเมืองที่ชื่อว่า
ก็ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง จากนั้นเราทั้งสองใช้บริการแท็กซี่เดินทาง Cao Lao ชื่อออกเสียงเหมือนเกาเหลาบ้านเรา หากแต่มีเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เหนียวนุ่ม
ไปโรงแรม Star Hotel อันเป็นที่พักและสถานที่จัดกิจกรรมค่ายโดยทันที เรามาถึง เนื้อหมูที่รสชาติโอชะ แป้งเกี๊ยวกรุบกรอบเพิ่มอรรถรสในการทานและน�้าซุป
โรงแรมเวลาประมาณ 13.00 น. ก็ได้เช็กอินแยกย้ายตามห้องพักที่ก�าหนดไว้แล้ว ที่หอมใบโหระพาเป็นจุดเด่น เมื่อทานเสร็จ ก็มุ่งกลับที่พักด้วยรถบัสของโรงแรม
พวกเราได้พักอยู่กับชาวเวียดนามรุ่นราวคราวเดียวกัน ส�าหรับผมได้มีโอกาส เพื่อไปร่วมกิจกรรมการแสดงวัฒนธรรมที่ก�าลังจะมาถึง ในส่วนของกิจกรรมนี้
ประสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ร่วมห้อง และได้ไปชื่นชมความงามของอ่าวตังเกี๋ยผ่าน คือการที่นักศึกษาแต่ละเชื้อชาติแสดงเอกลักษณ์ของชาติตนเอง ผมได้เห็นการแสดง
ชายหาดบริเวณดานัง ก่อนที่จะกลับเข้าไปรับประทานอาหารเย็นและร่วมกิจกรรม ที่หลากหลายและสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาจากอินเดียที่แสดงการเต้น
แรกในค่าย ส�าหรับอาหารเย็น ทางโรงแรมได้จัดอาหารแบบโต๊ะจีน แม้รสชาติ ในงานแต่งงานที่ตื่นเต้นเร้าใจ ด้วยชุดส่าหรีที่สวยงามและการเคลื่อนไหวอันน่าทึ่ง
จะไม่จัดจ้านเท่าอาหารไทย แต่ก็อร่อยถูกปากไม่แพ้กัน ในส่วนของกิจกรรมช่วงค�่านั้น ท�าให้ผมมีความต้องการไปเยือนประเทศอินเดียสักครั้งเพื่อไปชมการเต้นแบบ
เริ่มเวลา 20.00 ถึง 22.30 น. เป็นกิจกรรมการทักทายและท�าความรู้จักผ่านการ เต็มรูปแบบที่นั่น ส�าหรับประเทศไทย ผมและศันสนีย์ได้เตรียมการแสดงระบ�า
เล่นเกมเป็นภาษาเยอรมันด้วยกัน โดยเริ่มจากการแนะน�าตัวผู้เข้าร่วมกิจกรรม เทพบันเทิง ซึ่งเป็นระบ�าที่ปรากฏในการแสดงละครอิเหนา อันเป็นสัญลักษณ์
ทั้งหมด 81 คน เป็นชาวเวียดนามเจ้าภาพและชาวต่างชาติที่มาร่วมค่ายจาก ของการอวยพรให้ประสบความส�าเร็จและรุ่งเรือง การแสดงของพวกเราได้รับการ
ประเทศเมียนมา ลาว อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย ปากีสถาน และไทย ประเทศละ ตอบรับเป็นอย่างดี ท�าให้เรามีหัวใจพองโตหลังจากจบการแสดง
2 คน เมื่อจบกิจกรรมก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย (อ่านต่อหน้า 7)