Page 3 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 31 วันที่ 12 - 18 พฤศจิกายน 2561
P. 3
วันที่ ๑๒- ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ข่าวรามคำาแหง ๓
เปิดตัวอาจารย์ศึกษาศาสตร์และประธานสภาคณาจารย์
ผู้ทุ่มเทหวังลูกศิษย์เติบโตเป็นคนดี
“ข่าวรามค�าแหง” ฉบับนี้ พานักศึกษารู้จักอาจารย์คณะศึกษาศาสตร์และด�ารงต�าแหน่งประธาน
สภาคณาจารย์แบบเจาะลึก ผู้มีประสบการณ์การสอนหลากหลายรูปแบบ ทั้งมหาวิทยาลัยระบบปิด โรงเรียน
มัธยม และระบบการเรียนการสอนตลาดวิชาในรั้วรามค�าแหง และยังเป็นประธานสภาคณาจารย์ผู้มีความ
รับผิดชอบสูง ให้ความส�าคัญกับการเรียนของนักศึกษาเป็นหลัก โดยวาดหวังนักศึกษาเติบโตเป็นคนดีของสังคม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.คึกฤทธิ์ ศิลาลาย ประธานสภาคณาจารย์ อาจารย์ประจ�าภาควิชาการศึกษา
ต่อเนื่องและอาชีวศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ จบปริญญาตรีสาขาวิชาสัตวศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร
ปริญญาโทสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ และปริญญาเอกสาขาวิชาการบริหารการศึกษา
(ครุศาสตร์อุตสาหกรรมดุษฎีบัณฑิต) จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ผศ.ดร.คึกฤทธิ์ เคยเป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอนระหว่างเรียนปริญญาโทและเป็นอาจารย์พิเศษหลังเรียนจบ
ปริญญาโท ที่คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ก่อนจะมาเป็นอาจารย์
ประจ�ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามค�าแหง
“ผมชอบการสอนหนังสือ การน�าความรู้ที่ร�่าเรียนมาถ่ายทอดให้กับเด็กๆ เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจ ได้ใกล้ชิด
และรู้แนวคิดของเด็กๆ ที่มีความหลากหลาย ซึ่งการสอนเด็กมัธยมจะมีการปรับตัวเพื่อสร้างแรงจูงใจและปรับใช้
เทคนิคการสอนที่หลากหลาย เจอสิ่งแปลกใหม่อยู่บ่อยครั้ง มองว่าเป็นประสบการณ์ที่ท�าให้ได้เรียนรู้และเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ส�าหรับบริบทการสอนนักศึกษากับ
นักเรียนจะแตกต่างกันเล็กน้อย จึงไม่ต้องปรับตัวมาก”
หลังจากเป็นอาจารย์สอนเด็กมัธยมได้ 4 ปี ผศ.ดร.คึกฤทธิ์ ก็ได้กลับมาสอนเด็กมหาวิทยาลัยอีกครั้งในรั้วรามค�าแหง โดยบริบทของมหาวิทยาลัย
รามค�าแหงเป็นมหาวิทยาลัยตลาดวิชา จึงค่อนข้างแตกต่างกับมหาวิทยาลัยปิดทั่วไป ผศ.ดร.คึกฤทธิ์ จึงใช้เทคนิคการสอนที่เน้นความเข้าใจคุณลักษณะ
และความรู้พื้นฐานของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน และมีการสอนปูพื้นฐานก่อนเพื่อจะเรียนไปพร้อมๆ กันได้
“เด็กรามฯหลายคนท�างานไปด้วย เรียนไปด้วย ก็จะหาความรู้เพิ่มเติมมาเสริมให้ บางคนที่ไม่มีเวลามาพบก็จะจัดสรรเวลาให้เขามาปรึกษาอาจารย์ได้
ใส่ใจดูแลทุกด้าน หาวิธีการให้เขาได้รับความรู้มากที่สุด ซึ่งการทุ่มเทเพื่อศิษย์ก็เป็นหน้าที่ของครูอยู่แล้ว โดยเฉพาะหน้าที่หลักคือการเรียนการสอน
ส่วนการท�างานวิจัยก็เป็นอีกหน้าที่หนึ่งที่ต้องศึกษาหาความรู้อยู่เสมอเพื่ออัพเดตตัวเองให้เท่าทันโลกปัจจุบัน และมีพันธกิจในด้านการบริการวิชาการสู่สังคม
เป็นการคืนความรู้ น�าไปบริการให้กับชุมชน ซึ่งสามารถสอดแทรกสาระลงไปในเนื้อหาวิชาเพื่อสอนลูกศิษย์ได้ด้วย”
แม้ ผศ.ดร.คึกฤทธิ์ จะท�าหน้าที่เป็นประธานสภาคณาจารย์ด้วย ก็มีการแบ่งเวลาโดยให้ความส�าคัญกับการเรียนการสอนของนักศึกษาเป็นหลัก
โดยวิชาที่สอนปริญญาตรี ได้แก่ วิชาเทคโนโลยีชีวภาพส�าหรับครู เกษตรศึกษา (สอนร่วม) การผลิตพืชและระบบการปลูกพืชส�าหรับครู (สอนร่วม) การผลิต
สัตว์และฟาร์มปศุสัตว์ส�าหรับครู การพัฒนาหลักสูตรเกษตรศึกษา เทคนิคการสอนเกษตรศึกษา และวิชาเทคโนโลยีพื้นฐานเครื่องจักรกลการเกษตร
ส�าหรับครู (สอนร่วม)
ส�าหรับปริญญาโท สอนวิชามโนมติทางการจัดการอาชีวศึกษา (สอนร่วม) แนวคิด ทฤษฎีกระบวนการจัดการอาชีวศึกษา (สอนร่วม) นโยบายและการ
วางแผนอาชีวศึกษา ภาวะผู้น�าทางการอาชีวศึกษา และวิชาสัมมนาการจัดการอาชีวศึกษา ซึ่งต้องอาศัยทั้งองค์ความรู้และทักษะในการสอน เพื่อให้นักศึกษาน�า
ความรู้ไปต่อยอดในอนาคต
“อาจารย์หวังให้นักศึกษาเติบโตเป็นคนเก่ง ดี มีสุข ตามแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติฉบับที่ 10 แต่ยกให้ความดีเป็นอับดับแรกที่พึงกระท�า
เพราะคนเก่งพัฒนาได้ แต่คนดีต้องมีการสั่งสม โดยนึกถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก เรียนสูงต้องมองต�่าเหมือนรวงข้าวที่โน้มตัวลงสู่ดิน และสร้างความ
สุขให้กับตัวเองและคนรอบข้าง”
ผศ.ดร.คึกฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่ายุคนี้เป็นยุคดิจิทัล คู่แข่งไม่ได้อยู่เฉพาะภายในมหาวิทยาลัยหรือในประเทศของเรา แต่รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านและทั่วโลก
ดังนั้นนักศึกษาจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม เท่าทันการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่ต้องหมั่นฝึกฝนและพัฒนาตัวเอง และฝากให้เป็นคนเรียนรู้ตลอด
หมั่นศึกษาค้นคว้าอยู่เสมอ โดยเฉพาะคนที่จะเป็นครู ต้องเป็นพหูสูต ต้องรู้เยอะ ทั้งเนื้อหาที่สอน และสาระต่างๆ ความรู้ใหม่ๆ ของโลก เพื่อน�ามาสอนนักเรียน
หรือนักศึกษา และสามารถสอดแทรกลงไปในเนื้อหาที่จะสอน
ส�าหรับนักศึกษาที่ต้องการติดต่อ ผศ.ดร.คึกฤทธิ์ สามารถติดต่อผ่านอีเมล ritt25@hotmail.com หรือเข้าพบอาจารย์ได้ที่ ภาควิชาการศึกษาต่อเนื่อง
และอาชีวศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ ห้อง NCB 104 อาคารนครชุม