Page 5 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 31 วันที่ 12 - 18 พฤศจิกายน 2561
P. 5

วันที่ ๑๒- ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑                           ข่าวรามคำาแหง                                                              ๕

           เศรษฐศาสตร์ 101
           เศรษฐศาสตร์ 101





           คณะเศรษฐศาสตร์                          รศ.อสัมภินพงศ์ ฉัตราคม
            ตอน คนกลาง                                                          คณะมนุษยศาสตร์                      ผศ.ดร.สรตี ปรีชาปัญญากุล






                  ในการท�าการค้าตั้งแต่สมัยโบราณจนกระทั่งปัจจุบัน  “คนกลาง”  ต้องมี
           บทบาทส�าคัญอยู่ด้วยเสมอ และแม้ว่าคนกลางจะถูกโจมตีอยู่บ่อย ๆ ว่าเป็นต้นเหตุ
           ของการเอารัดเอาเปรียบหรือกดขี่ขูดรีดชาวไร่ ชาวนา ชาวสวนหรือแม้แต่คนขาย
           ลอตเตอรี่ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าถ้าขาดคนกลางไปเสียแล้ว การติดต่อค้าขาย

           คงจะไม่เป็นไปได้ราบรื่นหรือคล่องตัวเช่นที่เป็นอยู่
                  ความหมายของคนกลางหรือ middleman ในภาษาอังกฤษนั้นก็คือ
           บุคคลที่อยู่ตรงกลางระหว่างผู้ผลิตหรือผู้ขายรายแรกกับผู้น�าสินค้านั้นไปใช้โดยจะ                  ห้องน�้า
           ท�าหน้าที่อ�านวยความสะดวกให้การติดต่อค้าขายเกิดขึ้นได้  คนกลางที่ว่านี้อาจมี
           หลายพวกหลายกลุ่มก็ได้และจะเกิดขึ้นในกรณีที่ผู้ผลิตไม่สามารถหรือไม่มีโอกาส         Phòng tắm (ฝ่อง ตั๊ม)

           ที่จะติดต่อกับผู้บริโภค(ที่จะน�าสินค้านั้นไปใช้)ได้โดยตรง เช่นชาวสวนทุเรียน
           ปลูกทุเรียนอยู่ที่จันทบุรีและไม่มีทรัพยากร(เช่นรถปิคอัพ)ที่จะขนทุเรียนไปตระเวน     ที่ผ่านมาเราได้พูดถึงห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน (nhà – หญ่า) ประกอบด้วย
           เร่ขายให้กับผู้บริโภคในกรุงเทพฯ ซึ่งกระจายกันอยู่ทั่วไปได้ หรือในกรณีที่รู้ว่าคนจีน
           ชอบกินทุเรียนของไทยมาก แต่ก็ไม่รู้วิธีการติดต่อส่งไปขายและไม่สามารถติดต่อ          Phòng ngủ   (ฝ่อง หงู)     ห้องนอน
           สื่อสารด้วยภาษาจีนกับผู้ต้องการซื้อได้ เป็นต้น ตรงนี้เองที่คนกลางจะแทรกเข้ามาได้        Phòng khác   (ฝ่อง ค้าจ)   ห้องรับแขก
                  ตามต�าราการตลาดเกษตรนั้นขั้นตอนการขายผลผลิตจะเริ่มจากคนที่ตั้งตัว           Phòng bép   (ฝ่อง เบ๊ป)    ห้องครัว

           เป็นพ่อค้าในท้องถิ่นไปติดต่อซื้อผลผลิตจากเกษตรกรซึ่งจะเป็นชาวนา ชาวไร่หรือ     ในครั้งนี้จะแนะน�าให้รู้จักอีกห้องหนึ่งของบ้าน คือ Phòng tắm
           ชาวสวนก็แล้วแต่ หรืออาจเป็นว่าเกษตรกรนั้นเองน�าผลผลิตมาขายให้ พ่อค้า  (ฝ่อง ตั๊ม) ห้องอาบน�้า ซึ่งมีค�าศัพท์ที่จะพูดถึงเป็นสองค�าแรกคือ
           ระดับนี้มักจะท�าหน้าที่รวบรวมผลผลิตเกษตรไว้ให้พ่อค้าระดับใหญ่ขึ้นโดยอาจ            Bồn tắm      (โบ่น ตั๊ม)    อ่างอาบน�้า
           เป็นระดับอ�าเภอหรือจังหวัดหรือระดับเขตแล้วส่งต่อให้ระดับประเทศซึ่งมักมี            vòi sen      (หว่อย แซน)  ฝักบัวอาบน�้า
           ส�านักงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเรียกว่าเป็นพ่อค้าขายส่ง แล้วจึงจะกระจายสินค้า        Bồn tắm (โบ่น ตั๊ม) อ่างอาบน�้า

           ออกไปยังพ่อค้าขายปลีกหรือส่งออกไปต่างประเทศต่อไป การที่สินค้าต้องผ่าน       อ่างอาบน�้าขนาดใหญ่  ที่ติดตั้งภายในห้องน�้าในบ้าน  มีหลายชนิด
           คนกลางหลายขั้นหลายตอนเต็มทีกว่าจะถึงผู้บริโภคท�าให้ราคาที่เกษตรกรขายได้  สามารถแบ่งแยกได้โดยเรียกจากวัสดุที่ท�า เช่น Bồn tắm ngụa (โบ่น ตั๊ม เหงื่อ)
           กับราคาที่ผู้บริโภคอย่างพวกเราต้องจ่ายนั้นต่างกันมากกกกกก..กกกก      อ่างอาบน�้าพลาสติก Bốn tắm gang tráng men (โบ๊น ตั๊ม กาง จ๊าง แมน)
                  สาเหตุที่ราคาที่เกษตรกรได้รับกับราคาที่ผู้บริโภคจ่ายต้องต่างกันนั้น
           ก็เป็นเพราะคนกลางแต่ละขั้นตอนไม่ได้ท�าธุรกิจแบบการกุศล เขาจึงต้องบวกก�าไร  อ่างอาบน�้าเหล็กเคลือบ
           เข้าไปด้วย เช่นสมมุติว่าผมปลูกผักไปขายให้พ่อค้าที่รวบรวมสินค้ามาส่งที่ตลาดไท      Bạn nên ngồi trong bồn tắm lưng chừng nước ở nhiệt độ 35-

           ถ้าเขาจ่ายให้ผม กก.ละ 10 บาท เมื่อเขามาถึงตลาดไทก็ต้องคิดค่าขนส่ง ค่าจ้าง     37 độ C.
           คนงานขนส่ง ฯลฯ โดยต้องไม่รวมบวกก�าไรเข้าไปด้วยเพราะไม่ใช่องค์การกุศล        (บ่าน เนน โหง่ย จอง โบ่น ตั๊ม ลึง จึ่ง เนื้อก เอ๋อ เหญียต โด่ะ บาเมือย
           อย่างที่บอกไปแล้ว ราคาที่เขาขายที่ตลาดไทจึงอาจเป็น กก.ละ 25 บาท พ่อค้าขายปลีก      ลัม เด๊น บาเมือยไบ๋ โด่ะ แซ)
           ที่มาซื้อต่อไปในราคานี้ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดหรือซัพพลายเออร์ของ     คุณควรจะแช่น�้าในอ่างอาบน�้าที่อุณหภูมิ 35 – 37 องศาเซลเซียส

           ซุปเปอร์มาร์เก็ตเมื่อจะขายต่อก็ต้องบวกต้นทุนและก�าไรเข้าไปในราคานี้อีก      นอกจากอ่างอาบน�้าที่ใช้โดยการลงไปแช่แล้ว ยังมีค�าศัพท์อีกค�าหนึ่ง
           จนกระทั่งราคาที่ผู้บริโภคในเมืองต้องจ่ายนั้นอาจสูงถึง กก.ละ 50 บาทก็ได้  ที่ควรทราบ คือ bồn tắm đứng (โบ่น ตั๊ม ดึ๊ง) ลักษณะเป็นห้องอาบน�้า
                  การที่ราคาต้นทางกับปลายทางต่างกันลิบเช่นนี้ ท�าให้คนที่อยู่ต้นทางรู้สึกว่า  แบบยืนอาบ ใช้กระจกกั้นพื้นที่อาบน�้า ไม่ให้น�้ากระเด็นเมื่ออาบน�้า มักจะ
           ถูกเอาเปรียบจึงมีความพยายามจะลดความแตกต่างนี้ซึ่งวิธีที่อาจท�าได้คือ  ยกมาตั้งมุมใดมุมหนึ่งของห้องน�้า
           ตัดคนกลางพวกแรกไปด้วยการที่ผมขนผักมาขายที่ตลาดไทเอง ราคาที่ผมได้รับ         ในอดีตอาจมีค�าศัพท์  bồn  tắm  แต่เพียงลักษณะเดียว  แต่เมื่อ
           ตอนนี้จึงไม่ใช่ กก.ละ 10 บาทแล้วแต่เป็น 25 บาท อย่างไรก็ตามต้องไม่ลืมว่ามีต้นทุน

           คือค่าใช้จ่ายในการขนส่งและค่าแรงคนงานเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนการที่จะตัดคนกลางถึง  ปัจจุบันมี bồn tắm đứng จึงท�าให้ bồn tắm ต้องเพิ่มค�าขยายลงไปเป็น
           ขนาดขายให้ผู้บริโภคโดยตรงนั้นคงเป็นไปได้ยาก  แม้ว่าในบางสถานการณ์อาจจะ  bồn tắm nằm (โบ่น ตั๊ม หนั่ม)
           พอท�าได้ เช่นเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมามีลูกหลานชาวนาตามมหาวิทยาลัยบางแห่งน�าข้าว       vòi sen (หว่อย แซน) ฝักบัวอาบน�้า
           มาขายเองที่กรุงเทพฯ เพราะราคารับซื้อที่ต้นทางต�่ามาก                         หรือบางครั้งเรียกว่า vòi sen tắm (หว่อย แซน ตั๊ม) หรือ Vòi hoa
                  ในปัจจุบันระบบห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ที่ทันสมัยก็มีการตัดตอน sen tắm (หว่อย ฮวา แซน ตั๊ม) คือฝักบัวอาบน�้า ทั้งที่ติดตั้งกับฝาผนัง

           คนกลางออกไปให้เหลือน้อยที่สุด โดยร้านค้าปลีกประเภทที่มีสาขาเยอะ ๆ หรือ เมื่อเปิดใช้แล้วน�้าจะไหลออกจากด้านบน หรือฝักบัวอาบน�้าแบบมีสาย ที่สามารถ
           เป็นห้างค้าส่งขนาดใหญ่อาจจะไปติดต่อซื้อกับผู้ผลิตโดยตรง โดยในบางกรณีจะ  ปลดออกมาฉีดกับตัวได้
           ท�าสัญญารับซื้อหรือประกันราคากันท�าให้ผู้ผลิตได้ราคาดีขึ้นกว่าเดิมบ้าง แต่ก็ไม่ได้  Con thích tắm với vòi sen tắm.
           ก�าไรอะไรมากมายเพราะทางฝ่ายร้านค้าปลีกนั้นเขาตัดคนกลางเพื่อลดต้นทุน                (กอน ทิ้จ ตั๊ม เหวย หว่อย แซน ตั๊ม)
           ของตนเองเป็นหลักไม่ใช่เพื่อให้ผู้ผลิตได้ก�าไรมากขึ้นแต่อย่างใด                     ลูกชอบอาบน�้าด้วยฝักบัวอาบน�้า
                  ความจริงเมื่อกว่า 150 ปีมาแล้วที่ประเทศอังกฤษมีคนคิดวิธีการที่จะท�าให้      Nếu bạn tắm bằng vòi sen, bạn sẽ tiết kiệm nước hơn.

           เกษตรกรรวมทั้งผู้ผลิตรายย่อยอื่นๆ ได้ส่วนแบ่งจากกระบวนการการตลาดนี้มากขึ้น         ถ้าคุณอาบน�้าด้วยฝักบัว คุณจะประหยัดน�้ามากขึ้น
           โดยตัดคนกลางออกไปทั้งหมด                                     (อ่านต่อหน้า 11)
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10