Page 4 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 29 วันที่ 29 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน 2561
P. 4
๔ ข่าวรามคำาแหง วันที่ ๒๙ ตุลาคม - ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
นักจิตวิทยาแนะครูแนะแนวเป็นโค้ชให้เด็ก กิจกรรม ม.รามฯ จังหวัดหนองบัวลำาภู
ค้นหาศักยภาพ วางแผนสู่อาชีพในอนาคต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปรัชญา ปิยะมโนธรรม
อาจารย์ประจ�าภาควิชาจิตวิทยา คณะศึกษาศาสตร์ บรรยาย
พิเศษ เรื่อง “พรสวรรค์ที่ใช่ในตัวคุณ : Match your Talent”
ย�้าครูแนะแนว พ่อแม่ ผู้ปกครอง ช่วยกันค้นหาศักยภาพ
ของเด็ก เป็นโค้ชให้เด็ก วางแผนอนาคตได้ตรงสิ่งที่ชอบเรียน
ในการสัมมนาอาจารย์แนะแนวจากโรงเรียนมัธยมศึกษา นักศึกษา ปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ รุ่นที่ 15
ครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2561 ณ ห้องศักดิ์ ผาสุขนิรันต์ สาขาวิทยบริการฯ จังหวัดหนองบัวล�าภู จัดท�าบุญ
อาคารหอประชุมพ่อขุนรามค�าแหงมหาราช ถวายสังฆทาน พระสงฆ์ จ�านวน 6 รูป เนื่องในโอกาส
ผศ.ดร.ปรัชญา กล่าวว่าระดับสติปัญญาของมนุษย์เกิดจากพันธุกรรม 100% และเซลล์สมองของมนุษย์ ส�าเร็จการศึกษา หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต
เกิดขึ้นก่อนอายุ 6 ปี พอหลังอายุ 6 ปี จะไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลง ความฉลาดหรือพรสวรรค์เกิดมาจากสติ โดยมี อาจารย์ประสิทธิ์ บุญไทย รองอธิการบดี
ปัญญาซึ่งมนุษย์ทุกคนมีความฉลาด 8 ด้าน คือ 1)ความฉลาดด้านภาษา 2)ความฉลาดด้านค�านวณ ฝ่ายวิทยบริการจังหวัดหนองบัวล�าภู เป็นประธานในพิธี
3)ความฉลาดด้านมิติสัมพันธ์ 4)ความฉลาดด้านกายภาพหรือร่างกาย 5)ความฉลาดด้านดนตรี 6)ความฉลาด โอกาสนี้ นักศึกษาได้มอบม้าหินอ่อน จ�านวน 2 ชุด
ด้านทักษะสังคม 7)ความฉลาดด้านบุคคล และ8)ความฉลาดด้านธรรมชาติ ให้สาขาวิทยบริการฯ จังหวัดหนองบัวล�าภู
ส่วนการรับรู้เพื่อการเรียนรู้ของมนุษย์ มี 3 ประเภท คือ 1)การมองเห็น เวลาอ่านหนังสือจะจ�าเป็นภาพ เพื่อเป็นที่ระลึก และใช้ประโยชน์ต่อไป
ท�างานอ่านหนังสือในบรรยากาศที่เงียบสงบ วางแผนก่อนลงมือท�า 2)การได้ยิน อ่านแล้วต้องท่องให้คนอื่นฟัง
ชอบพูดต่อหน้าคนอื่น ชอบอธิบาย จ�าชื่อคนได้ดี ชอบฟังดนตรี และ3)การสัมผัส อ่านแล้วต้องท�าโน้ตย่อ แล้วไป
อ่านโน้ตย่ออีกครั้ง สนุกสนานกับการปฏิบัติ จดจ�าได้ดี ชอบกีฬา ดนตรี สาขาฯสุรินทร์ ร่วมประเพณีแซนโฏนตา
ผศ.ดร.ปรัชญา กล่าวอีกว่าการสื่อภาษาระหว่างมนุษย์ใช้ภาษาพูดมากกว่าภาษาท่าทาง ให้สังเกต มหาวิทยาลัยรามค�าแหง สาขาวิทยบริการ
จากสายตา ถ้าชอบมองเห็นจะสบตากับคนที่พูดด้วย ชอบมองต�่า ใบหน้าจะไปพร้อมกับตา ท�าอะไรจะช้า มอง เฉลิมพระเกียรติจังหวัดสุรินทร์ ร่วมสืบสาน
เห็นภาพรวมทั้งหมดก่อน ถ้าชอบได้ยิน เวลาคุยสบตาไม่เกิน 20 % มองไปซ้ายขวา ตาจะไปก่อนหน้า ถ้าชอบ ประเพณีแซนโฏนตา บูชาบรรพบุรุษ (สารทเขมร)
สัมผัส ไม่สบตา ถ้าสบตาจะมองจ้องเกินไป เหมือนไม่ได้มองเรา ของชุมชนชาวพื้นเมืองสุรินทร์ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม
ยกตัวอย่าง ประเทศไทย มีคนประเภทชอบมองเห็น 50 % ชอบได้ยิน 38 % และชอบสัมผัส 12% จึงพบว่า 2561 โดยมีไก่ เนื้อ หมู ปลา ข้าวสาร ข้าวสวย
คนประเภทหลังนี้ ส่วนมากเป็นหมอ วิศวกร พยาบาล เป็นนักปฏิบัติไม่ใช่นักคิด แต่ปัจจุบันร้อยละ 33-35 ผลไม้ ขนมกระยาสารท และข้าวต้ม รวมทั้ง
คนที่เรียนจบหมอ วิศวกร ไม่ได้ท�างานตรงสายอาชีพ เพราะคนเหล่านี้ตอนเด็กเรียนเก่ง จึงถูกคาดหวังจากคนรอบข้าง อาหารคาว เป็นเครื่องเซ่นไหว้
ให้เรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ เมื่อถึงเวลาเลือกเองได้จึงเรียนต่อด้านที่ตนเองชอบ เช่น บริหารธุรกิจ และรัฐศาสตร์ เป็นต้น
ผศ.ดร.ปรัชญา ย�้าด้วยว่าการรับรู้เพื่อการเรียนรู้จากการมองเห็น ได้ยิน และได้สัมผัส มนุษย์จึงมีวิธีการรับรู้ข้อมูล ตามความถนัดของสมอง คือ VAK
ย่อมาจาก V=Visual รับรู้ด้วยภาพ A=Audio รับรู้ด้วยเสียง K=Kinesthetic รับรู้ด้วยความรู้สึก แต่จะมีจุดเด่นที่ท�าให้จ�าแม่นแตกต่างกันไป
ผศ.ดร.ปรัชญา ย�้าด้วยว่าการรับรู้เพื่อการเรียนรู้จากการมองเห็น ได้ยิน และได้สัมผัส มนุษย์จึงมี
วิธีการรับรู้ข้อมูล ตามความถนัดของสมอง คือ VAK ย่อมาจาก V=Visual รับรู้ด้วยภาพ A=Audio รับรู้ด้วย
เสียง K=Kinesthetic รับรู้ด้วยความรู้สึก แต่จะมีจุดเด่นที่ท�าให้จ�าแม่นแตกต่างกันไป
ดังนั้น ลีลาการเรียนรู้ แบ่งได้เป็น 6 ประเภท คือ V A K ชอบมองเห็น ได้พูด ได้สอน อ่านแล้วเล่า
ให้คนอื่นฟัง V K A เรียนรู้ตามแบบอย่างที่ปรากฏ แล้วลงมือปฏิบัติตาม เขียนตาม แล้วจ�าภาพที่ตัวเองเขียนได้
A K V เรียนรู้จากการสอนคนอื่น ท่องในใจ แล้วท่องให้เพื่อนฟัง A V K เรียนรู้ด้วยการท่องให้ตัวเองฟัง
แล้วพูดให้ตัวเองได้ยินเพียงคนเดียว K V A เรียนรู้จากการสัมผัส ใช้ความคิดในสถานที่สงบ อ่านเงียบๆ
และ K A V เรียนรู้จากการปฏิบัติ ชอบเคลื่อนไหว ไม่อยู่นิ่ง ท�าอะไรหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
ในช่วงท้าย ผศ.ดร.ปรัชญา ยกตัวอย่างการเรียนของประเทศฟินแลนด์ แถบยุโรปว่า เป็นประเทศที่ไม่ให้เด็กเรียนก่อนอายุ 6 ปี เพราะสติปัญญาของมนุษย์
จะถูกพัฒนาก่อนอายุ 6 ปี จากการเล่นเท่านั้น การเรียนก่อนอายุ 6 ปี ท�าให้สติปัญญาไม่พัฒนาเท่าที่ควร ไม่มีการสอบในทุกระดับชั้น ครูผู้สอนตั้งแต่เกรด 1-12 เป็น
ครูคนเดียวกันหมด เพื่อเห็นพัฒนาการของเด็กแต่ละคน พอจบเกรด 12 จะเรียนต่อด้านวิชาชีพ หรือท�างานตามความชอบของตนเองก่อนแล้วจึงเรียนต่อสาขาที่ตนเอง
ชอบได้ ซึ่งแตกต่างกับประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง
“ขอฝากอาจารย์แนะแนวให้ช่วยกันค้นหาศักยภาพของเด็ก เป็นโค้ชให้เด็ก ท�าให้เด็กเห็นอนาคตว่าตัวเองชอบเรียนอะไร อย่าไปตีตราเด็กว่าฉลาดหรือโง่
เพราะการรับรู้เพื่อการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน อยู่ที่ว่า อาจารย์แนะแนว พ่อแม่ หรือผู้ปกครองจะช่วยแนะเส้นทาง หาช่องทางให้เด็กได้รู้จักตัวเองว่าชอบ
อะไร แล้ววางแผนสู่การเรียนในอนาคตต่อไป”