Page 5 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 27 วันที่ 15 - 21 ตุลาคม 2561
P. 5

วันที่ ๑๕ - ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๑                             ข่าวรามคำาแหง                                                              ๕


            เศรษฐศาสตร์ 101
            เศรษฐศาสตร์ 101





           คณะเศรษฐศาสตร์                          รศ.อสัมภินพงศ์ ฉัตราคม        คณะมนุษยศาสตร์                     ผศ.ดร.สรตี ปรีชาปัญญากุล

            ตอน ความมั่งคั่งของชาติ (1)                                                เครื่องปรุง (ตอนที่ 6) gia vị (ซา หวิ)





                  ถ้าลองถามคนทั่ว ๆ ไปว่าเราจะรู้ว่าชาติไหนมั่งคั่งมากหรือน้อยนั้นต้องดู     ในห้องครัว เราจะพบเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่ใช้ประกอบอาหารมากมาย
           จากอะไร คนที่ติดตามข่าวสารด้านเศรษฐกิจอยู่บ้างก็คงตอบว่าดูจาก GDP หรือรายได้  ครั้งที่ผ่านมาได้น�าเสนอ น�้าตาล น�้าปลา ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก ซอสถั่วเหลือง
           ประชาชาติ ซึ่งถ้าจะให้ผมตอบก็คงตอบอย่างเดียวกันเพราะต�าราเศรษฐศาสตร์บอกไว้ว่า   เกลือ พริก พริกป่น พริกไทย กะปิ ปลาร้า ผงชูรส  ไปแล้ว ในครั้งนี้จะแนะน�าให้
           GDP เป็นตัววัดแสดงมูลค่าสินค้าและบริการที่คนทั้งประเทศร่วมกันผลิตขึ้นมา  รู้จักเครื่องปรุงอีก 2 ชนิด คือ
           และขายได้ ตีค่าเป็นเงินออกมา แต่ข้อที่ต้องระวังก็คือการจะไปเทียบความมั่งคั่ง      Chanh     (จัญ)               มะนาว
           กับชาติอื่นๆ นั้นจะเอาแต่ GDP ไปเทียบคงไม่ได้เพราะขนาดของเศรษฐกิจต่างกัน     Dầu ăn        (เสิ่ว อัน)          น�้ามัน

                  ลองมาจัดอันดับกันดูก่อนก็แล้วกันครับ ประเทศที่มีมูลค่า GDP สูงเกิน
           1ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2561 นี้ (ตัวเลขประมาณการโดยกองทุนการเงิน                    Chanh  (จัญ)  มะนาว
           ระหว่างประเทศหรือ IMF) มีอยู่ด้วยกัน 16 ประเทศซึ่งน�าโด่งมาโดยสหรัฐฯ ที่รายได้
           ประชาชาติมีมูลค่าถึง 20 ล้านล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยจีนที่ความมั่งคั่งสูงถึง 14      มะนาว เป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว มักน�ามาใช้เป็นเครื่องปรุงรสในอาหาร
           ล้านล้าน ส่วนประเทศอื่นนั้นแม้จะมี GDP มูลค่าสูงเกิน 1 ล้านล้านแต่ก็ไม่มีชาติ  หรือท�าเป็นน�้ามะนาวเพื่อดื่ม

           ไหนมูลค่า GDP สูงกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์เลยสักชาติเดียว และน่าสังเกตว่าใน       Quả chanh được sử dụng làm thực phẩm trên khắp thế giới
           บรรดา 16 ประเทศที่มี GDP สูงเกิน 1 ล้านล้านนี่มีประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน         (กว๋า จัญ เดือก สือ สุ่ง หล่าม ถึก เฝิม เจน คับ เท้ เสย)
           ของเรารวมอยู่ด้วย 1 ประเทศด้วย ลองเดาดูสิครับว่าประเทศอะไร ถ้าใครตอบว่า                             มะนาวถูกน�ามาใช้เป็นอาหารทั่วโลก
           สิงคโปร์ซึ่งใคร ๆ ก็คิดว่ามั่งคั่งที่สุดในอาเซียนละก็.....ขอบอกว่าผิดนะครับ      นอกจากการใช้มะนาวเป็นส่วนประกอบในการปรุงรสแล้ว มักจะใช้มะนาว
    โดยมีผลงานวิจัยระดับชาติที่ร่วมน�าเสนอจ�านวน 482 ผลงาน  ผลงานวิจัย     ประเทศในอาเซียนที่ GDP มูลค่าเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์คืออินโดนีเซีย  มาท�าเป็นเครื่องดื่ม จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารท�างานได้ดีขึ้น ช่วยเผาผลาญ

 ระดับนานาชาติจ�านวน 53 ผลงาน  และผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมจ�านวน 49   ซึ่งติดอันดับโลกอยู่ที่อันดับที่ 16 พอดี โดยมีมูลค่าประมาณ 1.075 ล้านล้าน   พลังงาน ท�าให้ผิวพรรณสดใส เป็นต้น
 ผลงาน  ระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคมที่ผ่านมา  ณ โรงแรมเรือรัษฎา จังหวัดตรัง  ส่วนไทยเรานั้นเขาจัดอยู่อันดับ 26 มีมูลค่า GDP ประมาณเกือบ 5 แสนล้านดอลลาร์               Uống nước chanh có nhiều lợi ích cho sức khỏe.
           เรียกว่าทิ้งห่างสิงคโปร์แบบไม่เห็นฝุ่นเพราะ GDP สิงคโปร์อยู่อันดับตั้ง 38 โน่น              (อ๊วง เนื้อก จัญ ก๊อ เหญี่ยว เหล่ย อี๊จ จอ สึ้ก แคว้)

           แน่ะครับ                                                                               การดื่มน�้ามะนาวมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
                  ที่ไล่ตัวเลขให้ดูนี่ก็เพื่อจะให้ท่านผู้อ่านได้รู้ว่าเราสามารถใช้ตัวเลขจริง ๆ     ในภาษาเวียดนามมีค�าศัพท์ที่ใช้เรียกมะนาวโดยสามารถระบุให้เฉพาะ
           ที่ไม่ได้ปั้นแต่งแต่อย่างใดนั้นมาหลอกคนหรือหลอกตัวเองก็ได้ว่าในบรรดาประเทศ  เจาะจงได้ เช่น ถ้าใช้ค�าว่า Chanh (จัญ) โดยไม่มีค�าใดมาขยายจะหมายถึง

           ทั้งหลายในโลกเกือบ 200 ประเทศนั้นไทยเรามั่งคั่งอยู่อันดับ 26 ซึ่งถือได้ว่าไม่เลวเลย   Chanh ta (จัญ ตา) เป็นมะนาวผลขนาดเล็ก เปลือกสีเขียว หากเป็นมะนาวผล
           แต่ถ้าคิดวิเคราะห์ดูสักหน่อยก็จะรู้สึกว่าคงจะต้องมีอะไรผิดเพี้ยนสักอย่างแน่   ขนาดโต เปลือกสีเหลือง จะเรียกว่า chanh tây (จัญ เตย) หรือ chanh vàng
           เพราะเมื่อเทียบกับสิงคโปร์ดูแล้วท่านผู้อ่านจะกล้าปฏิเสธความจริงที่ว่าสิงคโปร์  (จัญ หว่าง)
    รศ.ศิศีโรตม์  กล่าวถึงเวทีการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ   นั้นมั่งคั่งกว่าเราหรือเปล่า หรือถ้าเอาไปเทียบกับกับอินโดนีเซียล่ะ จะยอมรับได้     ค�าว่า ta (ตา) เป็นค�าที่ใช้ประกอบค�าอื่นที่หมายถึง “เรา” เช่น chúng ta
 โดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เป็นเจ้าภาพร่วมกับมหาวิทยาลัย  หรือว่าความมั่งคั่งเราต�่ากว่าเขาตั้ง 10 อันดับ  (จุ๊ง ตา) หรือ người ta (เหงื่อย ตา) พวกเรา ค�าว่า Chanh ta (จัญ ตา) จึงหมาย
 ราชมงคลทั่วประเทศ  ว่าเป็นการประชุมที่เน้นการน�าเสนอสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม     ตัวเลขมูลค่าผลผลิตรวมของชาติหรือ GDP นั้นขึ้นกับขนาดของประเทศ  ถึงมะนาวในแถบบ้านเรา เป็นมะนาวผลเล็กเปลือกสีเขียว ดังที่เราพบเห็นได้ทั่วไป

 ที่ต่อยอดจากงานวิจัย  มีนักวิชาการและนักวิจัยจากสถานศึกษาและบุคคลทั่วไป  (เรียกกันว่าขนาดของเศรษฐกิจ)ด้วย ประเทศที่มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาลและมี  เหมือนกันทั้งของเวียดนามและของไทย แต่หากเป็นค�าว่า tây (เตย) หมายถึง
 ทั่วประเทศ และทั่วโลกร่วมน�าเสนอผลงาน  ส�าหรับเครื่องบ�าบัดกลิ่นฯ ที่ร่วมน�าเสนอนี้  ประชากรมากมายอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา จีน หรืออินโดนีเซียก็ย่อมต้องผลิต  ตะวันตก น�ามาใช้ประกอบเป็นค�าว่า người tây (เหงื่อย เตย) หมายถึงชาวตะวันตก
 ได้จัดจ�าหน่ายและน�าไปใช้ในสังคมแล้ว  จึงเป็นจุดเด่นที่ท�าให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ  ออกมาได้มากเป็นธรรมดา อย่างน้อยก็เพื่อเลี้ยงดูประชากรในประเทศของตนเอง   chanh tây (จัญ เตย) จึงเป็นมะนาวผลใหญ่สีเหลือง ดังที่พบเห็นได้ทั่วไปใน
                                                                                ประเทศแถบตะวันตก
 สาขาวิชาการรับใช้สังคม  ส่วนประเทศสิงคโปร์นั้นเขาว่าขนาดไม่แตกต่างจากกรุงเทพฯ ของเราสักเท่าไหร่

    “ผลงานเรื่องเครื่องบ�าบัดกลิ่นฯ ได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่นเหม็นของ  ดังนั้นต่อให้ผลิตได้ประสิทธิภาพสูงแค่ไหนสิงคโปร์แค่เกาะเดียวก็ไม่มีทางเทียบกับ  Dầu ăn  (เสิ่ว อัน)  นำ้ามัน
 หมึกพิมพ์และสิ่งแวดล้อมในห้องถ่ายเอกสาร  จึงออกแบบสิ่งประดิษฐ์ที่ประยุกต์มา  ประเทศใหญ่อย่างอินโดนีเซียที่ประกอบด้วยเกาะหมื่นเจ็ดพันกว่าเกาะได้
                                                                                      Dầu ăn được tinh lọc từ nguồn gốc thực vật hoặc động vật
 จากหลักการสร้างสนามไฟฟ้าแรงดันสูง หลักการเดียวกับฟ้าผ่าที่อัดแน่นไปด้วยพลังงาน     ในเมื่อเราใช้ตัวเลข GDP แล้วเกิดท�าให้เข้าใจผิดเพี้ยนไปได้แบบนี้แล้วจะใช้อะไร           (เสิ่ว อัน เดือก ติญ หล่อก ตื่อ โหง่น ก๊อก ถึก เหวิต ฮวัก ด่ง เหวิต)
 หลายแสนโวลต์  ผ่านบรรยากาศที่มีออกซิเจน  แล้วเกิดปฏิกิริยาที่เปลี่ยนออกซิเจน  วัดความมั่งคั่งกันล่ะ ค�าตอบก็คือใช้ตัวเลข GDP นั่นแหละครับเพราะอย่างที่                            น�้ามันได้รับการสกัดจากพืชหรือสัตว์

 เหล่านั้นเป็นโอโซนและประจุไฟฟ้าที่สามารถก�าจัดกลิ่นได้  ซึ่งเจ้าเครื่องนี้อาศัย  บอกแล้วว่ามันแทนมูลค่าผลผลิตที่ประเทศผลิตแล้วขายได้ซึ่งก็คือรายได้รวม     น�้ามันพืช เช่น น�้ามันดอกทานตะวัน dầu hướng dương (เสิ่ว เหือง
 การท�างานที่ดึงอากาศจากข้างนอกเข้ามาในตัวเครื่อง  แล้วแตกตัวเป็นก๊าซโอโซน  ของทั้งระบบเศรษฐกิจ เพียงแต่ว่าถ้าเราจะเปรียบเทียบระหว่างประเทศเขาจะ  เซือง) น�้ามันร�าข้าว dầu cạo (เสิ่ว ก่าว) หรือ dầu đầu nành (เสิ่ว เดิ่ว น่าญ)
 กับประจุไฟฟ้าที่น�าไปใช้ในการก�าจัดกลิ่นและฆ่าเชื้อโรค”   เอาจ�านวนประชากรของประเทศนั้น ๆ ไปหารเสียก่อนเป็นค่ารายได้เฉลี่ยต่อ  น�้ามันถั่วเหลือง
           ประชากร 1 คน หรือเรียกว่า per capita GDP ปัญหาที่ว่าประเทศใหญ่กว่าต้อง      น�้ามันที่มาจากสัตว์ ส่วนมากคือน�้ามันหมู เรียกว่า Mỡ heo (เหมอ แฮว)
           ผลิตได้มากกว่าเสมอก็จะหมดไป                                              Dùng mỡ heo để chiên hoặc rán sẽ đem lại mùi vị hấp dẫn hơn
                  ด้วยข้อมูลจาก IMF เจ้าเก่าแต่เมื่อเปลี่ยนมาจัดอันดับความมั่งคั่งด้วย       (สุ่ง เหมอ แฮว เด๋ เจียน ฮวัก สาน แส แดม หล่าย หมุ่ย หวิ เหิบ เสิน เฮิน)
           GDP per capita หรือรายได้คิดเฉลี่ยต่อประชากร 1 คนเรียบร้อยแล้วอันดับโลก                     ใช้น�้ามันหมูเพื่อผัดหรือทอดจะเพิ่มกลิ่นหอมหวนยิ่งขึ้น

           ก็เปลี่ยนไปเยอะทีเดียว โดยในปี 2560 ประเทศที่มั่งคั่งอันดับ 1 กลับเป็นกาตาร์
           ตามด้วยลักเซ็มเบอร์กแล้วก็เป็นสิงคโปร์ที่กระโดดขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ส่วน      บางครั้งเราจะเห็นว่าใช้ทั้งค�า dầu (เสิ่ว) และ mỡ (เหมอ) อยู่ด้วยกัน
           สหรัฐอเมริกาซึ่ง GDP สูงเป็นอันดับ 1 นั้นตกลงมาเป็นอันดับ 11 ในขณะที่จีน    Mẹ rán bánh chưng được vàng giòn, thơm ngon, ít ngấm dầu mỡ.
           หล่นไปอยู่ที่อันดับตั้ง 79 แน่ะครับซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะประชากรจีนมีหลาย         (แหมะ สาน บั๊ญ จึง เดือก หว่าง ซ่อน เทอม งอน อี๊ต เหงิม เสิ่ว เหมอ)
           พันล้านคนเมื่อเอาไปเป็นตัวหารก็ท�าให้ค่าเฉลี่ยหล่นวูบลงมาอย่างที่เห็น       แม่ทอดบั๊ญจึงได้เป็นสีเหลืองกรอบ หอมอร่อย อมน�้ามันน้อย
                                                                                     (อ่านต่อหน้า 11)
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10