Page 2 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 13 วันที่ 9 - 15 กรกฎาคม 2561

ข่าวรามคำาแหง
๒ ข่าวรามคำาแหง วันที่ ๙ - ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑
วันที่ ๑ - ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖

อธิการบดี ม.ร. ห่วงลูกหลานพ่อขุนฯ ฝากระวังตัว - รอบข้าง ไม่ตกเป็นทาสยาเสพติด (ต่อจากหน้า 1) อธิการบดีปฐมนิเทศฯ (ต่อจากหน้า 1)

โอกาสนี้ นางนฤมล มนาปี ผู้อ�านวยการ “การจัดปฐมนิเทศครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้อาจารย์
กองกิจการนักศึกษา กล่าวรายงานว่าตามมติที่ประชุม เกิดความรู้ความเข้าใจในพันธกิจ วิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์

สมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ เมื่อเดือนมิถุนายน 2530 การพัฒนามหาวิทยาลัย และมีความเข้าใจถึงภาระงาน
ก�าหนดให้วันที่ 26 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันต่อต้าน- ที่ต้องปฏิบัติ รวมทั้งการพัฒนาตนเองในด้านวิชาการ กิจกรรม

ยาเสพติดโลก ซึ่งประเทศไทยได้ยึดถือปฏิบัติและยืนยัน และวัฒนธรรมองค์กร ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์
เจตนารมณ์ร่วมกับประชาคมโลกในการรณรงค์ อันดีระหว่างอาจารย์ใหม่ที่จะน�าไปสู่ความเป็นอันหนึ่ง-
ต่อต้านสิ่งเสพติดอย่างต่อเนื่อง อันเดียวกัน และสร้างเครือข่ายในการปฏิบัติงาน

ส�าหรับโครงการรณรงค์สร้างเสริมสุขภาพ เพื่อพัฒนามหาวิทยาลัยต่อไป”
ห่างไกลสิ่งเสพติด จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชุมชนรอบมหาวิทยาลัยรามค�าแหง มีความรู้ความเข้าใจ ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์

ถึงปัญหาและโทษของสิ่งเสพติด มีสุขภาพที่ดีพร้อมคิดป้องกันการแพร่ระบาดของสิ่งเสพติด และเพื่อให้บุคลากร อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามค�าแหง กล่าวว่าการปฐมนิเทศ
นักศึกษา นักเรียนมีส่วนร่วมในการท�ากิจกรรม และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อาจารย์ใหม่ ถือเป็นสิ่งจ�าเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยให้อาจารย์
ด้าน ผศ.วุฒิศักดิ์ อธิการบดี ม.ร. กล่าวว่าวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันที่องค์การสหประชาชาติ ทราบถึงบริบทของมหาวิทยาลัยรามค�าแหง อาจารย์

ก�าหนดไว้เพื่อเป็นวันรณรงค์ต่อต้านสิ่งเสพติดโลก เป็นนโยบายที่ต้องการให้สังคมโลกตื่นตัวถึงภยันตราย ถือเป็น “ปูชนียบุคคล” บุคคลที่น่าเคารพนับถือ ดังนั้น
ต่อมนุษยชาติของสิ่งเสพติด ซึ่งจ�าเป็นต้องมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสภาวการณ์ของประเทศไทย การประพฤติปฏิบัติตนต้องมีความเหมาะสมกับต�าแหน่ง
ในปัจจุบัน มีปัญหายาเสพติดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แสดงให้เห็นว่าแม้จะมีมาตรการการรณรงค์ มีองค์กร หน้าที่การงาน มีความตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์สุจริต

และกฎหมายคอยควบคุม ก็ยังไม่สามารถเอาชนะปัญหานี้ได้อย่างเด็ดขาด มีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพและคุณธรรมอันดี
“วงการการค้ายาเสพติดมีความรุนแรงมาก ผู้หญิงและเยาวชนจ�านวนมากถูกชักจูงเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยไม่รู้ตัว เป็นแบบอย่างที่ดีกับศิษย์ และขอให้ภาคภูมิใจที่อาจารย์
ฝากลูกหลานรามค�าแหงระวังตัวเองและคอยสังเกตคนรอบข้างให้อยู่ห่างไกล ไม่ตกเป็นทาสของสิ่งเสพติด ได้มีส่วนช่วยขับเคลื่อนสถาบันแห่งนี้ที่เปิดการเรียน

ร่วมเป็นก�าลังส�าคัญในการต่อต้านสิ่งเสพติดให้หมดไปจากสังคมอย่างจริงจัง และอย่าเริ่มต้นริลองแม้แต่บุหรี่ การสอนในรูปแบบ “ตลาดวิชา” ให้ทุกคนที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน
ที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย เพราะแท้จริงแล้วสิ่งเสพติดทุกชนิดล้วนให้โทษ ขอบคุณหน่วยงานที่จัดกิจกรรมดีๆ มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ส�าเร็จเป็นบัณฑิตที่มีความรู้-

ชักชวนให้เยาวชนชาวรามค�าแหงมีส่วนร่วมสร้างจิตส�านึกที่ดี และรู้เท่าทันภัยอันตรายของสิ่งเสพติด” คู่คุณธรรม ออกไปรับใช้บ้านเมืองในต�าแหน่งหน้าที่ต่างๆ
จากนั้น นายอัครพล คงชุม นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามค�าแหง น�านักเรียนโรงเรียนสาธิต อย่างภาคภูมิ อีกทั้งยังเป็นก�าลังส�าคัญที่จะช่วยผลักดัน
มหาวิทยาลัยรามค�าแหง และนักศึกษามหาวิทยาลัยรามค�าแหงประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านสิ่งเสพติดโดยจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับ มหาวิทยาลัยให้ก้าวไปข้างหน้า สู่ความเป็นเลิศทางด้าน-

สิ่งเสพติดและอบายมุขทั้งปวง และจะร่วมกัน คิดดี ท�าดี ท�าประโยชน์เพื่อสังคม พร้อมจะให้การสนับสนุน วิชาการ และให้สังคมได้เห็นว่ามหาวิทยาลัยรามค�าแหง
และให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากแผ่นดินไทย เป็น “ตักศิลา” อย่างแท้จริง

บัณฑิตหนุ่มนิติฯ ม.รามฯ สร้างชื่อสอบอัยการผู้ช่วย ได้อันดับที่ 1 ของประเทศ (ต่อจากหน้า 1) “ขอให้อาจารย์ใหม่ เรียนรู้รูปแบบการสอนที่ดี
ของอาจารย์อาวุโส เพื่อน�ามาพัฒนาการสอนของตนเอง
ใช้ระยะเวลาเรียน 2 ปีครึ่ง จบปีการศึกษา 2552 และเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต และสอนนักศึกษาให้รู้จักวิธีการค้นคว้าหาความรู้
แผน ก ภาค 1 ปีการศึกษา 2554 จบภาค 2 ปีการศึกษา 2557 ใช้เวลารวมการท�าวิทยานิพนธ์ 4 ปี จากนั้น เพิ่มเติมนอกเหนือจากในห้องเรียน และเข้าสอน
สอบไล่ได้เป็นเนติบัณฑิต สมัยที่ 64 ปี 2554 และสอบได้ใบอนุญาตว่าความ จากสภาทนายความ ปี 2555 ตามตารางเรียนที่ก�าหนดไว้อย่างสม�่าเสมอ และนอกจาก

“ช่วงที่เป็นนักศึกษา ม.รามค�าแหง ผมเข้าฟังการบรรยายในทุกวิชาที่ลงทะเบียนเรียน และอ่านต�าราเรียน การสอนและการออกข้อสอบแล้ว อาจารย์ควรเร่ง
ก่อนเข้าฟังค�าบรรยายอย่างสม�่าเสมอ เวลาพักจากการเข้าฟังบรรยายจะอ่านต�าราเรียนในวิชาที่ลงทะเบียนวิชาอื่นต่อไป เขียนผลงานวิชาการเพื่อขอต�าแหน่งทางวิชาการ

และเข้าร่วมกิจกรรมที่ทางคณะนิติศาสตร์จัดขึ้น เช่น โครงการสัปดาห์รพี โครงการอบรมสัมมนา และโครงการ ตั้งแต่เข้ามาสอนใหม่ๆ รวมทั้งวางแผนการท�าวิจัย
อภิปรายทางวิชาการต่าง ๆอยู่เป็นประจ�า” และศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นทั้งในและนอกประเทศ
นายนิตินันทน์ เล่าถึงเส้นทางสู่การสอบอัยการผู้ช่วย และผู้ช่วยผู้พิพากษาว่า เป็นการวางแผน เพื่อพัฒนาตนเองและการสอนให้มีประสิทธิภาพ

ตามความฝันที่ตั้งใจ โดยท�าตารางอ่านหนังสือ และปฏิบัติให้เป็นไปตามที่วางแผนไว้ ช่วงเวลาใกล้สอบจะพยายาม มากยิ่งขึ้น และต้องไม่ลืมให้ความร่วมมือเข้าร่วม
ท�าความเข้าใจหลักกฎหมายต่าง ๆ และฝึกท�าข้อสอบเก่าอย่างสม�่าเสมอ ก่อนเข้าสอบในแต่ละครั้ง ผมจะกลับมา กิจกรรมของคณะและมหาวิทยาลัยด้วย และที่ส�าคัญ
กราบสักการะองค์พ่อขุนรามค�าแหงมหาราช ที่มหาวิทยาลัยรามค�าแหง เพื่อเป็นขวัญและก�าลังใจในการสอบ ขอให้ซื่อสัตย์สุจริตในหน้าที่การงาน และผลงาน

“แรงบันดาลใจมาสู่ความส�าเร็จในวันนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากมหาวิทยาลัยรามค�าแหง ผมหาข้อมูลการสอบ ทางวิชาการที่จะท�าต่อไป ค�านึงถึงวัฒนธรรมองค์กร
หลายสนาม โดยเฉพาะกลุ่มวิชาบังคับต่าง ๆ ทุกวิชาและวิชาภาษาอังกฤษส�าหรับนักกฎหมายที่เปิดสอน การอยู่ร่วมกันด้วยความรัก ความสามัคคี ถ้อยทีถ้อยอาศัย
ในหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต เป็นพื้นฐานส�าคัญที่สามารถน�าไปต่อยอดศึกษาในระดับชั้นเนติบัณฑิต ตลอดจนให้เกียรติซึ่งกันและกันระหว่างอาจารย์

ใช้ในการสอบอัยการผู้ช่วยและผู้ช่วยผู้พิพากษา ทั้งสนามใหญ่และสนามเล็กได้โดยตรง กับเจ้าหน้าที่ และนักศึกษาด้วย”
ส�าหรับหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิตนั้น วิชาที่มีผลอย่างมากในการสอบอัยการผู้ช่วยและผู้ช่วยผู้พิพากษา

คือ วิชาภาษาอังกฤษส�าหรับนักกฎหมาย วิชากฎหมายอาญาชั้นสูง วิชาสัญญาและละเมิดชั้นสูง และวิชาหลักกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ส่วนในวิชาอื่น ๆ นั้น
มีผลในการสร้างแนวคิดการตีความกฎหมายให้ถูกต้องซึ่งมีส่วนช่วยในการสอบอัยการผู้ช่วย และผู้ช่วยผู้พิพากษาเช่นกัน”

นอกจากนี้ ผมยังได้รับแรงบันดาลใจในการสอบอัยการผู้ช่วยและผู้ช่วยผู้พิพากษาจากอาจารย์ผู้สอนทั้งอาจารย์ประจ�าและอาจารย์พิเศษจากองค์กรของ
ภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยแนวคิด ทฤษฎี ประสบการณ์ และอาจารย์พิเศษบางท่านเป็นถึงอดีตรองประธานศาลฎีกา ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

รองประธานศาลปกครองสูงสุด อดีตอัยการสูงสุด และทนายความจากส�านักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ เป็นต้น
“ผมมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่สามารถน�าความรู้และการฝึกตนจากการเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามค�าแหง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เติมเต็มความรู้ได้ในทุกโอกาส
และมีส่วนช่วยผลักดันให้ผมสอบได้ทั้งอัยการผู้ช่วย และผู้ช่วยผู้พิพากษา ซึ่งหากไม่มีมหาวิทยาลัยรามค�าแหงแล้ว ผมก็ไม่สามารถก้าวเข้าไปสู่อาชีพที่ผมตั้งเป้าหมายไว้ได้”