Page 7 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 19 วันที่ 20 - 26 สิงหาคม 2561
P. 7
วันที่ ๒๐ - ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๑ ข่าวรามคำาแหง ๗
ปัจจัยที่ทำ�ให้ตัดแว่นต�แล้วใส่ไม่ได้
อาจารย์อัครพนธ์ วัชรพลากร คณะทัศนมาตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามค�าแหง
จากสถิติของส�านักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โรคเบาหวานมักจะประสบปัญหาเรื่องแว่นสายตาที่ตัดมานั้นมองไม่ชัด หรือ
พบว่าคนไทยจ�านวนมากมีปัญหาสายตา ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาว คนไข้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงอาจจะท�าให้เกิดภาวะจอประสาทตาขาดเลือด
หรือ สายตาเอียง และแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด นั่นก็คือการตัดแว่นตา ส่งผลให้มองเห็นไม่ชัดได้ ดังนั้นหากผู้ตรวจเจอคนไข้ที่มีโรคประจ�าตัวเหล่านี้
จากร้านค้าที่สะดวกและราคาถูกที่สุด และส่วนใหญ่จะพบปัญหาว่าได้เลนส์แว่นตา จะต้องบอกให้คนไข้ควบคุมน�้าตาลให้ดีก่อนที่จะมาตรวจวัดสายตา เพื่อให้
ที่ไม่ตรงกับค่าสายตาที่เปลี่ยนไป และคนไทยจ�านวนไม่น้อยก็หาทางออก ได้ค่าสายตาที่ถูกต้องและแม่นย�า
ด้วยการเปลี่ยนร้านแว่นไปเรื่อย ๆ 3. ค่าสายตาที่ต้องปรับตัวมาก คนไข้บางคนมีความผิดปกติทางด้าน
จากการสอบถามกลุ่มคนท�างานที่มีปัญหาสายตากว่า 20 คน ถึงการ สายตาที่ต้องปรับตัวมาก เช่น สายตาเอียงในแกนองศาแนวเฉียง สายตาสั้น
เลือกร้านแว่น ก็ได้ข้อมูลแทบไม่แตกต่างกันคือ เลือกร้านที่สะดวก ร้านขนาดใหญ่ มาก ๆ หรือ สายตายาวมาก ๆ เป็นต้น คนไข้เหล่านี้จะปรับตัวให้เข้ากับแว่น
ที่มีหลายสาขา เพราะน่าเชื่อถือ และบางครั้งก็เลือกเพราะโฆษณาที่คุ้นหูคุ้นตา สายตาอันใหม่ที่เพิ่งตัดได้ยากกว่าผู้อื่น อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวนานขึ้น
หรือมีโปรโมชั่นลดราคา ในขณะที่กลุ่มวัยรุ่นจะเน้นร้านที่มีกรอบแว่นตาแฟชั่น แต่หากคนไข้ไม่สามารถทนกับแว่นตาที่เพิ่งตัดมาในช่วงปรับตัวได้ ก็จะเลิก
ทันสมัยให้เลือกมากมายและราคาไม่สูงมากนัก แต่พฤติกรรมที่ทั้งสองกลุ่ม ใส่แว่นตาอันใหม่นั้นไปในที่สุด ร้านแว่นตาบางร้านอาจจะแก้ไขสายตาให้คนไข้
เหมือนกัน คือ ส่วนใหญ่จะไม่ได้ไปตรวจวัดสายตากับผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาล เพียงเล็กน้อยก่อนเพื่อจะท�าให้คนไข้ปรับตัวได้ในระยะเวลาที่เร็วขึ้น ท�าให้
เพื่อน�าค่าสายตามาให้ร้านแว่นตัดเลนส์ให้ เพราะเชื่อว่าเครื่องวัดสายตาคอมพิวเตอร์ ผู้สวมใส่ไม่ต้องปวดหัวในการปรับตัวมากเกินไปในระยะแรก แต่ภายหลัง
ในแต่ละร้านคงมีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน ความเชื่อเช่นนี้ท�าให้หลายคน อาจจะเกิดปัญหาแว่นสายตาที่ตัดมาใหม่นั้นไม่ชัดแทน
มีปัญหาหลังจากการใช้แว่นใหม่แล้วต้องปวดหัว เวียนหัว จนต้องกลับไป 4. การประกอบแว่นสายตาไม่ถูกต้อง อาจจะเกิดจากการตั้งศูนย์แว่น
ให้ทางร้านแก้ไขวัดสายตาให้ใหม่ ผิดพลาด ไม่ถูกต้องต่อชนิดสายตา ค่าสายตา ซึ่งอาจจะท�าให้เกิดความเสียหาย
เครื่องวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์เรียกว่า Auto Refractor ตามร้านค้าแว่นตา อย่างมาก หากเป็นการตัดเลนส์ที่มีราคาสูง เช่นเลนส์ Progressive โดยการ
เริ่มมีใช้ในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 หรือ 40 ปีที่ผ่านมา เป็นเครื่องมือ ที่ประกอบแว่นสายตาไม่ตรงจะท�าให้เกิดภาวะเสมือนใส่เลนส์ปริซึม
ที่ออกแบบมาเพื่อใช้วัดสายตา โดยการให้ค่าสายตาเป็นตัวเลขส�าเร็จรูป ข้อมูล (Prismatic effect) ท�าให้คนไข้เกิดอาการปวดหัว มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียนได้
จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระบุถึงข้อดีของเครื่องมือนี้คือใช้งานง่าย 5. ปัญหาจากวัสดุของแว่นสายตา เช่น ตัวแว่นสายตามีการโค้งงอ
ได้ค่าสายตารวดเร็ว แต่ข้อเสียคือค่าที่ได้จากเครื่องมือนี้อาจไม่ตรงกับความจริง บิดเบี้ยวจากการท�าตก นอนทับ นั่งทับ หรือ การใส่ถอดแว่นตาผิดวิธี ซึ่งเมื่อ
ความน่าเชื่อถือประมาณ 80% ส่วนกลุ่มที่ไม่ควรใช้เครื่องวัดสายตานี้คือ ตัวแว่นตาบิดเบี้ยวจะท�าให้แสงไปตกกระทบจอประสาทตาผิดต�าแหน่ง
เด็กอายุต�่ากว่า 6 ขวบ เพราะความน่าเชื่อถือจะน้อยกว่า 50% ท�าให้เกิดปัญหาใส่แว่นแล้วไม่ชัดนั่นเอง
นอกจากนี้ ในคนไข้ที่มีปัญหาในเรื่องของ เมื่อทราบถึงปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้แล้ว ก่อนไปตรวจวัดสายตาอย่าลืมพักผ่อน
การปรับโฟกัสและการเพ่งมักจะได้ ให้เพียงพอ ควบคุมระดับน�้าตาลและความดันโลหิตให้ดี และไปตรวจวัดสายตา
ค่าสายตาที่สั้นกว่าปกติ หรือในคนไข้ที่มี กับผู้เชี่ยวชาญเพื่อจะท�าให้ไม่เกิดปัญหาตัดแว่นสายตามาแล้วใส่ไม่ได้นั่นเอง
ปัญหาโรคตา เช่น กระจกตาโป่งพอง,
หนังตาตก, ต้อกระจก ก็จะท�าให้ได้ค่าสายตา คลินิกส�ยต� มห�วิทย�ลัยร�มคำ�แหง
คลินิกสายตา คณะทัศนมาตรศาสตร์
ที่ไม่ถูกต้องได้ และส�าหรับในคนที่มีสายตายาว- รูปที่ 1 เครื่อง Auto Refractor (Barksdale Air Force
ผู้สูงอายุ เครื่องนี้ก็ไม่สามารถบอกค่าสายตา ภาพไม่มีลิขสิทธิ์ แสดงใน public domain) มหาวิทยาลัยรามค�าแหง เปิดให้บริการ
ส�าหรับการมองใกล้ได้ จึงอาจจะสรุปได้ว่าค่าสายตาที่ได้จากเครื่องวัดสายตา ตรวจสายตาและสุขภาพตาฟรี ด้วยห้องตรวจ
ด้วยคอมพิวเตอร์นี้ไม่อาจเชื่อถือได้ เพราะเป็นเพียงค่าสายตาเบื้องต้น จึงไม่เหมาะ พร้อมเครื่องมือตรวจวัดที่ทันสมัย การตรวจ
ที่จะน�าไปใช้ในการประกอบแว่นสายตา เพราะอาจก่อให้เกิดอาการปวดหัว ถูกต้องตามหลักวิชาการและมาตรฐานสากล
คลื่นไส้ อาเจียน เห็นภาพซ้อน มองไม่ชัดในบางระยะ ซึ่งอาจท�าให้ผู้ใช้เสี่ยง โดยนักศึกษาทัศนมาตรศาสตร์ชั้นปีที่ 4 รูปที่2 ภาพคลินิกสายตา มหาวิทยาลัยรามค�าแหง
ที่จะประสบอุบัติเหตุได้ ถึง 6 ภายใต้การดูแลของอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสายตา (Doctor of Optometry)
การให้บริการประกอบด้วย
ปัจจัยที่ทำ�ให้ตัดแว่นต�แล้วใส่ไม่ได้ 1. การตรวจสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง เป็นต้น
1. ค่าสายตาที่ท�าแว่นตาไม่ถูกต้อง ปัจจัยนี้เป็นปัญหาเกิดจากตัวผู้วัดสายตา 2. การตรวจสุขภาพดวงตา เช่น การตรวจหาต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก เป็นต้น
ที่อาจจะวัดสายตาไม่ถูกต้อง เชื่อถือค่าที่ได้จากเครื่องวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์ 3. การตรวจความเสี่ยงในการเกิดโรคตา เช่น ต้อหิน เป็นต้น
มากเกินไป โดยเฉพาะขั้นตอนการประเมินการเพ่งของตาและการคลายกล้ามเนื้อตา 4. การตรวจอื่น ๆ (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
หากเชื่อเครื่อง Auto Refractor อาจจะน�าไปสู่ค่าสายตาสั้นที่มากเกินความจ�าเป็น หมายเหตุ การตรวจใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
น�าไปสู่ความไม่สบายตาและใส่ไม่ได้ในที่สุด ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่วัน
2. โรคประจ�าตัวของผู้ใส่แว่นตา โรคประจ�าตัวหลายโรคส่งผลต่อค่าสายตา จันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น.
เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์ เป็นต้น คนไข้ที่เป็น สถานที่ให้บริการ คลินิกสายตา คณะทัศนมาตรศาสตร์ อาคารสุโขทัย
โรคเบาหวานมักจะมีค่าสายตาที่เปลี่ยนแปลงอยู่บ่อย ๆ นั่นคือผู้ที่ป่วยเป็น ชั้น 1 มหาวิทยาลัยรามค�าแหง (อ่านต่อหน้า 9)