Page 6 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 19 วันที่ 20 - 26 สิงหาคม 2561
P. 6

๖                                                       ข่าวรามคำาแหง                            วันที่ ๒๐ - ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๑



            เรียงความรองชนะเลิศอันดับ 2 วันไหว้ครู ประจำาปีการศึกษา 2561






           นางสาวพิชามญชุ์ เจริญสุขสกุลชัย                                                          นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ รหัส6002058136
                      “ครูผู้ให้แสงสว่าง แห่งปัญญา”                            เป็นผู้ที่ส�าคัญที่สุดในชีวิตของเรา  แต่หากจะลองพิจารณาใคร่ครวญดูให้ดีแล้ว

                                                                               ใครกันเล่าที่เราผูกพัน คุ้นเคย และต้องพบเจอคลุกคลีในชีวิตประจ�าวัน
                “แสงสว่างของดวงตะวันมิมีวันดับสิ้นลงฉันใด พระคุณของผู้ให้ที่ชื่อว่า รองจากพ่อแม่ ใครกันเล่าที่คอยอบรมบ่มเพาะความรู้ ขัดเกลาพฤติกรรมให้เรา

          ครูก็ย่อมมิมีวันสลายหายไปฉันนั้น” บทเปรียบเปรยข้างต้นนี้ ข้าพเจ้ามิได้หยิบยก  ประพฤติตนในทางที่ดี และคอยส่งเราให้ไปถึงอนาคต ใครกันเล่าถ้าไม่ใช่ครู
          หรือตัดทอนมาจากบทความของหนังสือเล่มใด หากแต่ใช้ความรู้สึกที่มี  ดังนั้นจึงมีค�ากล่าวที่ว่า “ครูเปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สองของลูก” แม้แต่ใน

          ต่อนิยามแห่งค�าว่า “ครู” กลั่นกรองเขียนออกมาด้วยตนเองก็เท่านั้น หากจะ  ทางพระพุทธศาสนาเองก็ยังให้ความส�าคัญกับคนเป็นครูเป็นอันดับสอง
          กล่าวถึงนิยามของค�าว่าครู ในบางครั้ง ท่านทั้งหลายอาจจะหลงลืม หรือ  รองจากบุพการีผู้ให้ก�าเนิด จะเห็นได้จากการศึกษาในเรื่องทิศทั้งหก ตามหลัก

          มองไม่เห็นถึงภาพพจน์อันลึกซึ้งของค�าค�านี้เท่าใดนัก นั่นเป็นเพราะว่าเรา  พุทธศาสนา  ซึ่งครูและผู้ให้ความรู้ได้แก่ทิศล�าดับที่สอง  หรือทิศเบื้องขวา
          ทั้งหลายนั้นคุ้นชินกับค�าว่าครูมาตั้งแต่ก�าเนิด  จนละเลยถึงแก่นที่แท้จริง ซึ่งเรียกว่า “ทักขิณทิส”
          ของค�าค�านี้ไปโดยปริยาย  แต่ท่านทั้งหลายคงมิอาจที่จะปฏิเสธได้ว่า  การที่    หากจะกล่าวถึง “มหาวิทยาลัยรามค�าแหง” ส�าหรับตัวของข้าพเจ้าเองนั้น

          คนหนึ่งคนจะสามารถเติบโตจนด�ารงชีพได้ด้วยตนเองอย่างแข็งแกร่ง ดั่งพืชที่มีน�้า  มีความผูกพันกับมหาวิทยาลัยอันทรงคุณค่าแห่งนี้อย่างแน่นแฟ้น เนื่องจาก
          และแสงคอยหล่อเลี้ยงจนงอกงามได้  ก็เพราะเขาเหล่านั้นมีผู้คอยแนะน�าแนวทาง  ก่อนหน้านี้ได้ส�าเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาแล้วหนึ่งใบ

          และได้รับการอบรมบ่มเพาะมาอย่างดีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการใช้ชีวิต  และปัจจุบันก�าลังศึกษาในคณะบริหารธุรกิจ ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่า มหาวิทยาลัย-
          และด้านการประกอบสัมมาอาชีพ สิ่งนี้ล้วนเป็นเครื่องแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่า  รามค�าแหง มหาวิทยาลัยตลาดวิชาแห่งนี้ เปรียบเสมือนชลธารอันกว้างใหญ่

          ไม่มีผู้ใดในโลกที่ไม่มีครู ครูอาจจะไม่ได้ประกอบอาชีพซึ่งสอนในโรงเรียน  ที่เต็มไปด้วยสายนที ซึ่งเปรียบดั่งความรู้ทางวิชาการที่มิมีวันหมดสิ้นภายใน
          หากแต่เป็นครูที่คอยอบรมสั่งสอนเราให้กระท�าการต่างๆ จนส�าเร็จลุล่วงได้  มหาวิทยาลัย นักศึกษาสามารถตักตวงน�้าในชลธารแห่งนี้มาใช้ประโยชน์

          ท่านเหล่านี้ล้วนเรียกว่าครูได้ทั้งสิ้น  ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเราทุกคนเป็นศิษย์มีครู  ได้อย่างไม่จ�ากัด สมกับการที่มีอัตลักษณ์เป็นมหาวิทยาลัยตลาดวิชา ที่ให้โอกาส
          ครูผู้ซึ่งเปรียบเสมือนเรือจ้างที่จะคอยส่งเหล่าลูกศิษย์ของท่านไปสู่ฝั่งฝัน และเปิดโอกาสให้กับทุกชนชั้น ทุกเพศทุกวัย อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สถานที่
          แห่งอนาคต ด้วยจิตอันเปี่ยมไปด้วยโสมนัส และไม่หวัง หรือเรียกร้องถึงผลประโยชน์ แห่งนี้นับว่าเป็นสถานศึกษาในอุดมคติของข้าพเจ้าเลยก็ว่าได้  เหตุใดข้าพเจ้า

          หรือผลตอบแทนใดๆจากศิษย์เลย                                           จึงกล่าวถึงมหาวิทยาลัยรามค�าแหงแห่งนี้  นั่นเป็นเพราะว่าข้าพเจ้ามิอาจที่จะ
                หากจะตั้งค�าถามว่าเหตุใดจึงกล่าวว่าครูเป็นผู้ให้แสงสว่างแห่งปัญญา  ละเลยครูผู้ส�าคัญยิ่งของข้าพเจ้าไปได้ ครูผู้ให้ทั้งความรู้ทางวิชาการ และ

          ส�าหรับตัวข้าพเจ้านั้นมีความคิดเห็นอย่างไม่มีข้อกังขาว่า ครูนั้นเป็นผู้ชี้น�า  ประสบการณ์ชีวิตอันล�้าค่า ครูผู้เปลี่ยนชีวิตของข้าพเจ้า ครูท่านส�าคัญท่านนั้นคือ
          ทางสว่างของศิษย์โดยแท้จริง เป็นที่พึ่ง ที่ปรึกษา เป็นผู้ให้ ผู้ประคับประคอง มหาวิทยาลัยรามค�าแหง ที่ซึ่งรวมคณาจารย์ และบุคลากรผู้ทรงคุณวุฒิใน

          ความรู้  ความคิด  ความอ่าน  ตลอดจนพฤติกรรมด้านศีลธรรมจรรยาของศิษย์  แขนงวิชาต่างๆ ซึ่งมากในความรู้และประสบการณ์ แต่ถึงแม้ว่าท่านเหล่านั้น
          แน่นอนว่า ไม่มีบุคคลใดที่เกิดมาแล้วรู้แจ้ง เห็นชัด หรือเชี่ยวชาญในการกระท�า  จะมีต�าแหน่งสูงส่งเพียงใดท่านก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธที่จะสอนศิษย์ในทุกชนชั้น

          สิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากครู ไม่ว่าจะเป็นในด้าน อย่างเท่าเทียมกันเลยแม้แต่น้อย
          ศิลปวิทยาการก็ดี  ด้านคุณธรรม  จริยธรรมก็ดี  ครูจึงเปรียบดั่งปูชนียบุคคล    สรุปได้ว่า  ผู้เป็นครูนั้น  หมายถึง  ผู้ให้  ผู้อบรม  ผู้สั่งสอน  แนะน�า
          ของศิษย์ กล่าวคือ ครูเป็นผู้ที่ศิษย์สามารถน้อมน�ามาเป็นแบบอย่าง หรือ ถ่ายทอดความรู้ สร้างสรรค์ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อน�า

          ต้นแบบได้ แน่นอนว่าหากชาติใดขาดครูที่ดี เด็กซึ่งเป็นอนาคตที่ส�าคัญของชาตินั้น  ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ ครูนั้นเปรียบดั่งผู้ให้แสงสว่าง
          ก็จะขาดความรู้ ขาดการอบรมสั่งสอน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ย่อมส่งผลอันเลวร้าย แห่งปัญญาโดยแท้จริง ประโยคอันแสนเรียบง่ายที่ว่า “สวัสดีค่ะคุณครู”

          ต่อประเทศชาติ  เนื่องจากไม่สามารถผลิตบุคลากรที่ดีเพื่อไปพัฒนาประเทศชาติ นั้นยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของข้าพเจ้าอย่างมิรู้คลาย ค�าว่าครู ยังคงเป็น
          บ้านเมืองในปัจจุบัน  และในอนาคตได้  เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้  ท่านผู้อ่าน ค�าที่ประเสริฐ และยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของข้าพเจ้าเสมอ สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้า
          ก็คงจะตระหนักได้บ้างแล้วว่า อาชีพครูนั้นมีความส�าคัญต่อบุคคล และต่อชาติ ต้องขอกราบขอบพระคุณคณะครู และอาจารย์ทุกท่านที่เคยได้อบรมสั่งสอน

          มากเพียงใด ครูนั้นจะต้องมีความเสียสละทั้งทางกายและทางใจ กล่าวคือ ข้าพเจ้ามาตั้งแต่วัยเยาว์ จนท�าให้ข้าพเจ้าเติบใหญ่เป็นต้นไม้ที่แข็งแรงได้ในวันนี้
          จะต้องมีทั้งความอดทน ความเสียสละต่อส่วนรวม ความหมั่นเพียร อีกทั้ง  คุณความดีของครูทุกท่านนั้นมีมากมายเหลือคณานับ ถ้าหากจะพรรณนาก็คง

          ยังต้องมีก�าลังแรงใจที่ดีในการสอนอีกด้วย ในความคิดเห็นของข้าพเจ้านั้น  มิมีวันที่จะหมดสิ้น  ข้าพเจ้าจึงได้กลั่นกรองบทร้อยกรองดังต่อไปนี้  เพื่อใช้
          ผู้เป็นครูมิเพียงแต่จะต้องมีจิตวิญญาณแห่งความรัก  ความโอบอ้อมอารี เป็นสิ่งแทนความเคารพ ความเทิดทูนบูชา ที่มีให้แก่ครูทุกท่าน และขอจบ

          อันเต็มเปี่ยมแล้ว แต่ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังต้องมีความเป็นพหูสูต คือมีความรอบรู้  บทร้อยแก้วนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้
          รู้จริงในสิ่งที่เหมาะที่ควรอีกด้วย จะเห็นได้ว่า การสร้างปัญญาให้แก่คนนั้น        อนึ่งข้าค�านับน้อม             บูชาครูสู่เหนือเศียร

          เป็นงานที่ประณีต  และละเอียดอ่อน  มากกว่าการสร้างแต่ความรู้อย่างเดียว     ยกท่านเปรียบดวงเทียน                  ในความเพียรสอนวิชา
          ครูผู้มีวุฒิภาวะจะมองเห็นถึงเป้าหมายนี้  และเพียรพยายามส่งศิษย์ให้ไปถึง          อนุศาสน์ทุกสิ่งสรรพ            คอยก�าชับมิกังขา
          อาจกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า  จุดมุ่งหมายที่ส�าคัญที่สุดของผู้เป็นครูนั้น  มิใช่    ได้ดีมีวิชา                    ปรารถนาไขว่คว้าเอา

          เพียงแต่การมอบความรู้ แต่ยังรวมไปถึงการที่ผู้เป็นครูจะต้องเปิดประตูแห่งปัญญา        สั่งสมวิชาสอน               ครูดั่งพรขัดโง่เขลา
          ที่มีความหมายและคุณค่ามากกว่าการมีเฉพาะความรู้ให้กับศิษย์ด้วย เพื่อส่งให้เด็กๆ    เติบใหญ่แต่วัยเยาว์             ครูน�าเจ้าเฝ้าคอยดู

          เหล่านั้น สามารถไปถึงจุดหมายของชีวิตได้อย่างราบรื่น และมีความรู้ที่ควบคู่ไป        กราบกรานท่านทั้งผอง          แสงเรืองรองครูเลิศหรู
          ใช้ช่วยเหลือตนเอง และผู้อื่นในสังคมได้เป็นอย่างดี จริงอยู่ ในข้อที่ว่าบุพการีนั้น    ร�าลึกน้อมวันครู               ยืนยงอยู่คู่ฟ้าไทย
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11