Page 5 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 16 วันที่ 30 กรกฎาคม - 5 สิงหาคม 2561
P. 5
ข่าวรามคำาแหง
วันที่ ๒๕ - ๓๑ มกราคม ๒๕๕๙
วันที่ ๓๐ กรกฎาคม - ๕ สิงหาคม ๒๕๖๑ ข่าวรามคำาแหง ๕ ๕
เศรษฐศาสตร์ 101
รศ.อสัมภินพงศ์ ฉัตราคม คณะเศรษฐศาสตร์
ตอน ต้มยำ�กุ้ง (3) บ้าน (หญ่า)
การที่ทุนส�ารองระหว่างประเทศของไทยซึ่งจ�าเป็นต้องมีไว้ใช้หนุนหลัง ผศ.ดร.สรตี ปรีชาปัญญากุล คณะมนุษยศาสตร์
ค่าเงินบาทและช�าระหนี้ระหว่างประเทศร่อยหรอลงจนใกล้จะหมดเนื่องจาก
การน�าดอลลาร์จากทุนส�ารองฯ นี้ไปป้องกันการโจมตีค่าเงิน ประกอบกับการไหลออก ในแต่ละบ้าน (หญ่า) มีหลายห้อง ประกอบด้วย
ของเงินตราต่างประเทศเนื่องจากเจ้าหนี้เรียกคืนเงินกู้ที่ธุรกิจไทยไปกู้ยืมไว้ (ฝ่อง หงู) ห้องนอน (ฝ่อง ค้าจ) ห้องรับแขก
ท�าให้ประเทศไทยในปี 2540 อยู่ในฐานะที่เรียกได้ว่าล้มละลายเพราะไม่มี (ฝ่อง เบ๊ป) ห้องครัว (ฝ่อง ตั๊ม) ห้องน�้า ในแต่ละห้องมีรายละเอียด
เงินตราต่างประเทศเพียงพอจะช�าระหนี้ได้ รัฐบาลในขณะนั้นจึงต้องหันไป เฉพาะของตัวเอง เราจะได้กล่าวถึงในครั้งต่อ ๆ ไป
พึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund หรือ IMF) บ้านในประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมือง จะสร้างเป็นบ้าน
ซึ่งเราเป็นสมาชิกอยู่โดยเจรจาขอกู้เงินซึ่งก็ได้มา 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ในท�านองตึก) ทรงสูง หน้าแคบ แต่มีความลึก บ้านในลักษณะนี้เราเรียกว่า
ในรอบแรก และยังต้องกู้อีกหลายรอบ (หญ่า กาว เติ่ง) โดยแต่ละหลังจะได้รับการจัดสรรพื้นที่ด้านหน้า
ผมจะไม่เขียนถึงการที่กว่าเราจะก้มหน้าก้มตาหาเงินมาจ่ายหนี้ IMF
ว่าล�าบากยากเย็นแค่ไหน เพราะเงื่อนไขที่เราต้องรับปากกับ IMF ที่เข้ามา ที่ติดถนนเท่า ๆ กัน ตึกเหล่านี้จะสร้างลึกสุดที่ดินของตนเอง ส่วนความสูงนั้นขึ้น
ควบคุมการเงินการคลังของไทยต่างหากที่น�าไปสู่หายนะของเศรษฐกิจไทย อยู่กับฐานะและลักษณะการใช้งานของตึกแต่ละหลัง คนเวียดนามใช้ศัพท์ค�า
อย่างแท้จริง ว่า (หญ่า) เรียกทั้งบ้าน และตึก หรืออาคารปลูกสร้าง
ในตอนที่แล้วผมเขียนไว้ว่าวิกฤตที่แท้จริงนั้นอยู่ที่สถาบันการเงิน ตัวอย่าง
เพราะในยุคนั้นมีธนาคารพาณิชย์ของเอกชนมากมายหลายแห่งปล่อยกู้ให้กับ (หญ่า ส่ง) บ้านกว้าง
ญาติสนิทมิตรสหายโดยไม่มีหลักทรัพย์ค�้าประกันอย่างเพียงพอ เมื่อเกิดเป็นหนี้เสีย (หญ่า เซียง) บ้านเดี่ยว
ขึ้นมาสินทรัพย์ที่ยึดไว้ก็ไม่คุ้มค่า ส่วนแบงก์ชาติที่ก�ากับดูแลอยู่นั้นก็ไม่อยากให้
ธนาคารเหล่านี้ล้มเพราะกลัวจะท�าให้ประชาชนไม่มั่นใจในสถาบันการเงิน ดังนั้น (หญ่า ค้าจ) บ้านรับรอง
แบงก์ชาติจึงใช้หน่วยงานที่เรียกกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (หญ่า เถอะ) โบสถ์ อาคารที่สร้างขึ้นภายในวัด
(เรียกสั้น ๆ ว่ากองทุนฟื้นฟูฯ) เข้ามาอัดฉีดสภาพคล่องคือน�าเงินมาฝากกับ (หญ่า ห่าง) ร้านค้า ร้านอาหาร บริษัท
สถาบันการเงินที่มีปัญหาอยู่เป็นระยะ ๆ รวมแล้วเป็นเงินนับแสนล้านบาท
ซึ่งจะสูญไปหมดในภายหลัง
การที่ IMF ก�าหนดให้รัฐบาลควบคุมหนี้เสียหรือที่เรียกกันว่าหนี้ที่ หญ่า ห่าง หนอน หลา หล่า หญ่า ห่าง เจวียน ฝุก หวุ หญึง หมอน อัน
ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ท�าให้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งต้องถูกควบรวมกิจการ เจวี่ยน ถง เหวียต นาม
หรือหาผู้ร่วมทุนจากต่างประเทศ โดยบางแห่งราคาหุ้นถูกลดเหลือหุ้นละ
1 สตางค์เท่านั้น ในช่วงที่ว่านี้จึงมีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งต้องเปลี่ยนชื่อ ร้านอาหารหนอนหลา เป็นร้านที่เตรียมอาหารพื้นบ้านของประเทศเวียดนาม
หรือถูกยุบรวมกันเข้าไปอยู่ในชื่อใหม่ และบางแห่งก็ถูกขายไปให้กับต่างชาติ ไว้คอยบริการ
นอกจากธนาคารพาณิชย์แล้ว ในยุคก่อนปี 2540 ยังมีสถาบันการเงิน (หญ่า เนื้อก) ประเทศ รัฐ
อีกประเภทหนึ่งที่เฟื่องฟูมากคือบริษัทเงินทุนหรือที่เรียกกันว่าไฟแนนซ์
ทั้งนี้เนื่องจากแบงก์ชาติและรัฐบาลยุคนั้นไม่ยอมให้มีการตั้งธนาคารพาณิชย์ใหม่ หญ่า เนื้อก หล่า โต๋ จึ๊ก กาว เหญิ้ต กว๋าน หลี ก๊วก ซา เหวียต นาม
แต่เนื่องจากความต้องการใช้บริการทางการเงินมีมากขึ้นอย่างรวดเร็ว รัฐเป็นองค์กรบริหารสูงสุดแห่งชาติเวียดนาม
ตามภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตสูง จึงมีผู้อาศัยช่องว่างที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมชัดเจน (หญ่า ห่าง กุง ดิ่ง) ร้านอาหารชาววัง
(ปัจจุบันมีแล้ว) ตั้งบริษัทเงินทุนขึ้นท�าหน้าที่รับฝากเงินและปล่อยกู้เหมือน
ธนาคารพาณิชย์ ที่ส�าคัญคือจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากให้สูงมากจนคนที่พอมีเงิน
กับเขาบ้างนิยมน�าเงินมาฝากกัน บริษัทเงินทุนเหล่านี้ยังน�าหุ้นเข้าขายใน เอ๋อ เฮว้ ก๊อ เหญี่ยว หญ่า ห่าง กุง ดิ่ง
ตลาดหลักทรัพย์เสียด้วยและก็มีการปั่นราคาหุ้นกันสนุกมือท�าให้มูลค่าหุ้น ที่เว้มีร้านอาหารชาววังจ�านวนมาก
สูงเกินจริงไปมาก ซึ่งก็เป็นส่วนส�าคัญของฟองสบู่ที่จะแตกในอีกไม่ช้า (หญ่า วัว) กษัตริย์
หายนะทางเศรษฐกิจที่แท้จริงมาถึงเมื่อ IMF ให้รัฐบาลเข้ามาดูแลว่า (หญ่า วัว ถาย ลาน) กษัตริย์แห่งประเทศไทย
บริษัทเงินทุนเหล่านี้มีความมั่นคงทางธุรกิจหรือไม่ ซึ่งเมื่อรัฐบาลตั้งคณะกรรมการ (หญ่า เทอ) กวี
เพื่อการปฏิรูปสถาบันการเงิน (เรียกสั้น ๆ ว่าปรส.) เข้ามาจัดการแล้วพบว่า
สถาบันการเงินเหล่านี้มีปัญหาก็เลยสั่งปิดถาวรไปเสีย 56 แห่ง เรียกว่าปิด
ไปเกือบหมดเลยทีเดียวเพราะเหลือให้ด�าเนินกิจการอยู่ได้แค่ 2 แห่งเท่านั้น ซวน กวิ่ง หล่า โหมต หญ่า เทอ หนือ เหวียต นาม
เศรษฐกิจไทยเข้าสู่กลียุคในตอนนี้เอง (อ่านต่อหน้า 11) ซวน กวิ่ง เป็นกวีสตรีผู้หนึ่งของประเทศเวียดนาม