Page 3 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 33 วันที่ 26 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2561
P. 3
วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน - ๒ ธันวาคม ๒๕๖๑ ข่าวรามคำาแหง ๓
0
มหาวิทยาลัยรามคาแหงจักอยู่ยั้งยืนยง
ศ.พิเศษ ดร.จิรโชค วีระสย
1.ความน�า ส�าหรับการปฐมนิเทศครั้งแรกจัดขึ้น ณ สนามศุภชลาศัยโดยมี
ในช่วงประมาณ 6-7 ปี ก่อน พ.ศ. 2560 มีการกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลง นักศึกษาชุดแรกประมาณ 30,000 คนเข้าร่วม ต่อมามีนักศึกษาใหม่ เพิ่มขึ้น
ในวงการศึกษาทั้งในระดับสากลและในระดับประเทศ มีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง มาอีก ศาสตราจารย์ ดร.ศักดิ์ ผาสุขนิรันต์ จึงจัดให้มีการปฐมนิเทศต้อนรับ
อันเป็นผลมาจากการก้าวกระโดดของเทคโนโลยี มีการเน้นเรื่องนวัตกรรม นักศึกษาชุดที่ 2 อีกประมาณ 8,000 คนในวันที่ 31 กรกฎาคม 2514
(innovation) และการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงระดับปั่นป่วนที่เรียกว่า disruptive ณ สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน และผู้เขียนท�าหน้าที่เป็นพิธีกรเป็น
หรือ digital disruptions ทุกวงการย่อมได้รับผลกระทบ ซึ่งหากไม่สามารถ ครั้งที่ 2 ผลรวมของจ�านวนผู้สนใจใฝ่รู้สมัครเป็นนักศึกษารุ่นบุกเบิกมีจ�านวน
ปรับตัว (adapt) ได้อย่างทันท่วงทีย่อมมีผลท�าให้ลดทอนความส�าคัญ ถึง 37,000 คนเศษ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมากกว่าจ�านวนนิสิตนักศึกษาของ
และความนิยมของการเรียนรู้ในสถาบันอุดมศึกษาไม่ว่าในระดับปริญญาตรี สถาบันอุดมศึกษาแห่งใดแห่งหนึ่งในยุคนั้นโดยรวมกันทุกชั้นปี
ปริญญาโท หรือระดับปริญญาเอก แต่หันไปให้ความส�าคัญกับการเรียนด้วยตนเอง
จากเทคโนโลยีใหม่ รวมทั้ง “ปัญญาประดิษฐ์” (AI : Artificial Intelligence)
และการเรียนรู้จากการผ่านงานคือประสบการณ์ด้วยตนเอง
กรณีของสมาชิกมหาวิทยาลัยรามค�าแหง คือ ม.ร. .... มุ่งรู้ มุ่งเรียน
จึงมาราม นั้น ผู้เขียนเชื่อว่า สามารถทนทาน และเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง
ต่างๆ ได้โดยย้อนร�าลึกความสามารถในการฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงการก่อตั้ง
และในช่วงด�าเนินการเป็นระยะเวลาเกือบครึ่งศตวรรษมาแล้ว
3. ผลงานด้านต่าง ๆ
งานที่เริ่มต้น คือการปฐมนิเทศ การเปิดการเรียนการสอน จุดมุ่งหมาย
คือ ให้สนองตอบต่อภารกิจหน้าที่ของการเป็นมหาวิทยาลัย คือ 1) การเรียน
การสอน (Teaching) 2) การวิจัย (Research) 3) การให้บริการทางวิชาการ
(Public Service) และ 4) ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม งานทั้ง 4 ด้านนี้ ย่อมเป็น
ที่ประจักษ์อยู่แล้วดังปรากฏอยู่ในรายงาน และการเสนอข่าวต่อสาธารณะ
ทั้งนี้ รายละเอียดต่าง ๆรวมทั้งการริเริ่มโดยคณะผู้บริหารและคณาจารย์
เจ้าหน้าที่ชุดต่าง ๆ ในช่วงเวลาเกินกว่า 4 ทศวรรษ เป็นที่น่าภาคภูมิใจ
2. ผลงานและประสบการณ์จากอดีต
เรื่องราวเกี่ยวกับการจัดตั้งมหาวิทยาลัยรามค�าแหงมีปรากฏ
ในหลายๆ แห่งแล้ว รวมทั้งผู้เขียนได้เคยกล่าวไว้ จากประสบการณ์ในการเป็น
ผู้หนึ่งในคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งมหาวิทยาลัยรามค�าแหงซึ่งรัฐบาล
ฯพณฯ จอมพล ถนอม กิตติขจร ได้แต่งตั้งขึ้นจ�านวน 7 คนในวันที่ 3 พฤศจิกายน
พ.ศ. 2513 ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ ดร.ศักดิ์ ผาสุขนิรันต์ เป็นประธานคณะ
กรรมการ ส�าหรับผู้เขียนเป็นกรรมการและเลขานุการ ผลส�าเร็จคือสามารถ
เปิดการเรียนการสอนได้โดยใช้เวลาเตรียมการที่รีบเร่งภายในเวลาอันสั้น
มักมีค�ากล่าวว่า “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” กรณีที่เป็นสถาบัน 4. ความส่งท้าย
ก็น่าจะเป็น “ค่าของมหาวิทยาลัยรามค�าแหงอยู่ที่ผลของงาน” ซึ่งตั้งแต่ ผู้เขียนในฐานะที่เป็นสมาชิกคนต้น ๆ คือ ตั้งแต่เริ่มแรก คือ ปี พ.ศ.
เริ่มแรกจัดการให้มีการปฐมนิเทศถึง 2 ครั้งได้เป็นผลส�าเร็จก่อนจะเปิดการเรียน 2514 ขอแสดงความเชื่อมั่นว่า ผลงานตั้งแต่เริ่มต้น และผ่านมาเป็นระยะเวลา
การสอนเป็นครั้งแรกได้ ทั้งนี้เพราะ มีผู้ตื่นตัวทั้งชายและหญิง อายุน้อย ยาวนานย่อมบ่งชี้ถึงความเป็นไปในอนาคตที่สถาบันการศึกษามหาวิทยาลัย
อย่างยิ่งคือเพียง 17 ปี และอายุสูงสุดคือเกิน 70 ปี สมัครเข้าเรียนอย่างอุ่น รามคำาแหงแห่งนี้จักอยู่ “อยู่ยั้งยืนยง” เป็นเวลานานแสนนาน
หนาฝาคั่ง