Page 6 - ข่าวรามคำแหง ปีที่ 48 ฉบับที่ 32 วันที่ 19 - 25 พฤศจิกายน 2561
P. 6
๖ ข่าวรามคำาแหง วันที่ ๑๙- ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภัทระ ลิมป์ศิระ คณะนิติศาสตร์
ผลการประชุมผู้น�าเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12
เมื่อวันที่ 18-19 ตุลาคม 2561 มีการประชุมผู้น�าเอเชีย-ยุโรป
(ASEM Summit) ครั้งที่ 12 (ASEM12) และการประชุมผู้น�าสหภาพยุโรป-
อาเซียน (EU – ASEAN Leaders’ Meeting) ในหัวข้อหลัก คือ ยุโรป
และเอเชีย: หุ้นส่วนระดับโลกเพื่อ ความท้าทายระดับโลก (Europe and Asia:
Global Partners for Global Challenges) โดยมีผู้น�าจากประเทศในเอเชีย
และยุโรป จ�านวน 51 ประเทศ และ 2 องค์กร ได้แก่ สหภาพยุโรป และส�านัก
เลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมประชุม ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
การประชุมผู้น�าเอเชีย - ยุโรปจัดขึ้นเป็นประจ�าทุกสองปี โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อเป็นเวทีส�าหรับผู้น�าจากภูมิภาคเอเชียและยุโรปได้แลกเปลี่ยนความเห็น
ต่อสถานการณ์และพัฒนาด้านการเมืองความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมของโลก ซึ่งวันนี้ประเทศไทยมีความเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน ที่ส�าคัญคือเน้นย�้า
และของสองภูมิภาค และเพื่อก�าหนดทิศทางและแนวนโยบาย เพื่อกระชับ ในเรื่องประชาธิปไตยกับทุกประเทศ เพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าไทยก�าลังเดินหน้า
ความสัมพันธ์ ส่งเสริมความร่วมมือ และเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกัน การเมืองที่มีความถูกต้อง มีความเป็นสากล และป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นอีก
ผลการประชุมผู้น�าเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12 ได้มีการหารือกันหลากหลาย นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในที่ประชุมให้ความส�าคัญกับการ
ประเด็น ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ การพัฒนาที่ยั่งยืน และการรับมือกับภัย พัฒนาประเทศด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
คุกคามในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของผู้น�า และให้ความส�าคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาฝีมือแรงงาน
และการประชุมสหภาพยุโรป-อาเซียน ให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่อีอีซี โดยให้ความมั่นใจกับทุกประเทศ
ในบทบาทของประเทศไทยนั้น ได้ใช้เวทีประชุมนี้ ในการส่งเสริม ว่าจะไม่ขาดแคลนแรงงาน เพราะได้วางแผนที่จะผลิตแรงงานให้ตรงกับ
บทบาทของประเทศไทยในเวที ASEM โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงต่อ ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในอีอีซี ที่เป็นการสร้างมูลค่าให้กับตลาด
ที่ประชุมเต็มคณะเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือ แรงงานไทยด้วย ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการสร้างมูลค่าให้กับประเทศ เพื่อน�ารายได้
เพื่อการเติบโตที่ครอบคลุมและความเชื่อมโยงอย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนวาระ กลับมาดูแลประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย น�ามาพัฒนา
การพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 และแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้น�าอื่นๆ ในการ การศึกษา และให้บริการด้านสาธารณสุขที่ครอบคลุม
ส่งเสริมความร่วมมือพหุภาคีต่อสถานการณ์ในภูมิภาคและของโลกในช่วง อีกทั้งในเวทีนี้ ได้สอบถามถึงการช่วยเหลือเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี
การประชุมหารืออย่างไม่เป็นทางการด้วย ทั้ง 13 คน และได้ชื่นชมความส�าเร็จในปฏิบัติการช่วยเหลือดังกล่าว นายกรัฐมนตรี
จึงถือโอกาสขอบคุณทุกประเทศที่ส่งความช่วยเหลือและส่งก�าลังใจมา ซึ่งถือ
เป็นเรื่องดีที่เยาวชนทุกคนสนใจการศึกษา และมีแนวความคิดที่โตกว่าวัย
มีความเข้มแข็งและเข้าใจเป็นอย่างดีในการปฏิบัติตัวว่าต้องขอบคุณทุกฝ่าย
ที่ให้การช่วยเหลือ ถือเป็นตัวอย่างที่ดี
นอกจากนี้ ภายหลังการประชุม ASEM12 นายกรัฐมนตรีมีก�าหนด
เข้าร่วมการประชุมผู้น�าสหภาพยุโรป – อาเซียน (EU-ASEAN Leaders’
Meeting) ซึ่งจะเป็นการหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับ
สหภาพยุโรป ในด้านต่างๆ โดยไทยจะเข้าร่วมการประชุมในฐานะที่ไทย
จะเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 และยังมีก�าหนด พบหารือทวิภาคีกับ
ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ผ่านโครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ ผู้น�าของประเทศยุโรปและเอเชียอีกหลายประเทศ
พิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ด้านการลงทุน รวมถึง อนึ่ง ระหว่างการประชุมเอเชีย - ยุโรปครั้งนี้ ฝ่ายเจ้าภาพยังมีการ
หารือถึงปัญหาอุปสรรคที่ค้างคากับบางประเทศ และมีความคืบหน้าในการ จัดการประชุมและกิจกรรมคู่ขนาน ซึ่งมีผู้แทนจากไทยและผู้มีส่วนได้เสีย
เจรจาจัดท�าเขตการค้าเสรี โดยจะเร่งขับเคลื่อนให้เกิดผลส�าเร็จได้ภายใน จากประเทศสมาชิก ASEM เข้าร่วม อาทิ การประชุม ASEM Parliamentary
รัฐบาลหน้า ทั้งในส่วนของไทย อียู อาเซียน และกรอบความร่วมมือต่างๆ Meeting ครั้งที่ 10 (10th ASEM Parliamentary Meeting - ASEP10)
ซึ่งผลจากการหารือกับทั้ง 9 ประเทศ ต่างให้ความสนใจในโครงการอีอีซีของไทย ของผู้แทนรัฐสภา ASEM การประชุม ASEF Young Leaders Summit
ซึ่งบางประเทศได้ศึกษาความเป็นไปได้แล้ว ขณะที่บางประเทศ เช่น เอสโตเนีย ครั้งที่ 3 (3rd ASEF Young Leaders Summit - ASEFYLS3) ของผู้แทน
จะศึกษาลู่ทางการลงทุนในไทยด้วยเช่นกัน ส่วนผู้น�าเยอรมันก็ได้พบปะ เยาวชน โดยมีเยาวชนไทยเข้าร่วมจ�านวน 2 คน ตลอดจนการจัดเทศกาล
และนัดหมายที่จะเดินทางไปเยือนในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะได้พูดคุยกัน วัฒนธรรม ASEM Cultura Festival ในหัวข้อ Europe meets Asia,
ถึงประเด็นความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน Asia meets Europe ซึ่งเปิดโอกาสให้ศิลปินของทั้งเอเชียและยุโรปได้
ในการประชุมครั้งนี้ หลายประเทศมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย แลกเปลี่ยนและน�าเสนอผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นการประชาสัมพันธ์ด้าน
ซึ่งเป็นผลทั้งจากการคุ้นเคยและการรู้จักประเทศไทยเป็นอย่างดี รวมถึงการ วัฒนธรรมของสมาชิก ASEM อีกทางหนึ่ง โดยจะมีนักแสดงทางวัฒนธรรม
พยายามท�าความเข้าใจและชี้แจงการด�าเนินการทุกอย่างของรัฐบาล จากไทยเข้าร่วมด้วย
